กรมชลฯ เพิ่มการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลัก หลังระดับน้ำแม่น้ำสายหลักส่วนใหญ่ยังต่ำกว่าตลิ่งจากภาวะฝนทิ้งช่วง

ข่าวทั่วไป Wednesday June 28, 2017 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักต่างๆ ส่วนใหญ่ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งค่อนข้างมาก เนื่องจากขณะนี้ได้เข้าสู่ภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้มีฝนตกน้อยลง แม่น้ำสายหลักต่างๆ จึงสามารถรองรับน้ำได้อย่างปลอดภัย โดยในวันนี้ 28 มิ.ย.60) มีปริมาณน้ำไหลผ่านในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ 497 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 7.48 เมตร และมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ในส่วนของสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ ปัจจุบัน(28 มิ.ย. 60) มีปริมาณน้ำรวมกัน 41,939 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 มีปริมาณน้ำมากกว่าปี 2559 รวม 9,573 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอใช้ตลอดฤดูฝนนี้ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 33,200 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีปริมาณน้ำมาก 4 แห่ง คือ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนทับเสลา และเขื่อนหนองปลาไหล กรมชลประทาน ได้ให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลดระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อเตรียมรองรับฝนที่จะตกลงมาอีก

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก มีอยู่รวมกันประมาณ 11,364 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 46 ปริมาณน้ำมากกว่าปี 2559 รวม 3,354 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำใช้การได้ 4,668 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปี 2559 มีน้ำใช้การ 1,314 ล้านลูกบาศก์เมตร) 4 เขื่อนหลักยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 13,500 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าน้ำท่าตามธรรมชาติในลุ่มน้ำเจ้าพระยาลดต่ำลงมาก ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้น จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก รวมกันจากเดิมวันละ 23.89 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 30.45 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 60 ไปจนถึงวันที่ 2 ก.ค. 60 เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการใช้น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ