พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาตามข้อเสนอแนะขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ว่า ที่ผ่านมาสำนักงานการบินพลเรือนได้ปรับปรุงข้อบกพร่องเกี่ยวกับความปลอดภัยการบินพลเรือน ทั้งระเบียบขั้นตอน คู่มือการทำงาน การประเมินผล รวมถึงการออกใบรับรองผู้เดินอากาศใหม่ ซึ่งในวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ยื่นขอปลดธงแดงกับ ICAO แล้ว โดย ICAO จะเข้ามาตรวจสอบและประเมินผลในช่วงเดือนก.ย. และจะทราบผลหลังจากนั้นภายใน 1 เดือนว่าจะสามารถปลดธงแดงได้หรือไม่
โดยขณะนี้ สำนักงานการบินพลเรือนได้อนุมัติใบรับรองผู้เดินอากาศใหม่ไปแล้ว 6 สายการบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานีหลักและภาคอากาศ 4 สายการบิน และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ 7 สายการบิน หากสายการบินเหล่านี้ไม่สามารถดำเนินการขอใบรับรองผู้เดินอากาศก่อน 1 ก.ย.60 ก็จะไม่สามารถให้บริการการบินระหว่างประเทศได้ ดังนั้นจึงต้องเร่งรัดดำเนินการและใช้เป็นข้อมูลในการชี้แจงกับ ICAO ต่อไป
นอกจากนี้ ในที่ประชุมฯ ยังได้รายงานความคืบหน้าการปรับปรุงการให้บริการของแท็กซี่สาธารณะ ตามที่เคยมีการหารือเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชัน "แท็กซี่โอเค" และ "แท็กซี่วีไอพี" ที่จะมีระบบติดตั้ง GPS ปุ่มฉุกเฉินให้กับผู้โดยสารเพื่อความปลอดภัย ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างการพิจารณากฎกระทรวงเพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.นี้จากนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่จะต้องไปเตรียมความพร้อม
ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะใช้เฉพาะรถแท็กซี่ใหม่เท่านั้น คาดว่าภายในปี 2561 ประเทศไทยจะมีแท็กซี่ในระบบนี้ให้บริการกว่า 80,000 คัน
ด้านพล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ยังได้พิจารณาการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านเกษตรโดยเฉพาะข้าว โดยเสนอให้จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นจังหวัดต้นแบบในการศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองข้าว โดยมีวัตถุประสงค์ผลิตข้าวเชิงอุตสาหกรรมครบวงจร ตามแนวทางของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ได้เสนอยุทธศาสตร์การปฏิรูปข้าวตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และสนับสนุนการผลิตข้าวแปลงใหญ่ ใช้แนวทางสหกรณ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำในที่ประชุมถึงการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย (IUU) ว่า จะมีการประชุมร่วมกับผู้แทนจาก EU ระหว่างวันที่ 3-14 ก.ค.60 เพื่อหารือเกี่ยวกับด้านเทคนิค และสรุปผลการดำเนินการของแต่ละฝ่าย พร้อมทั้งประชุมระดับหัวหน้าคณะผู้แทนด้วย โดยรัฐบาลต้องการทำเรื่องเหล่านี้ให้เป็นไปตามหลักสากล เดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และการจัดระเบียบเรือประมงเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การทำตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป (EU)