พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พร้อมเยี่ยมเยียนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมสั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 และ 3 เข้าดูแลประชาชนและคลี่คลายสถานการณ์น้ำให้ยุติลงเร็วที่สุด และให้ดูแลประชาชนให้มีความปลอดภัย โดยขณะนี้ กองทัพบกยังคงกำลังทหาร 26 กองร้อยช่วยเหลือประชาชน 2,300 นาย, ชุดแพทย์เคลื่อนที่ 8 ชุด, ชุดครัวสนามเคลื่อนที่ 5 ชุด, พร้อมเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย, รถยนต์บรรทุก 108 คัน, เรือ 39 ลำ, รถโกยตัก และเครื่องมืออื่นๆ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในภาคอีสาน เช่นที่ จ.สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ขอนแก่น ยโสธร ชัยภูมิ และมุกดาหาร เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังสั่งการให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงทั่วไป แบบ MI 17 เข้าช่วยลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์และตรวจสอบพื้นที่วิกฤติ โดยขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ฯ ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน จ.สกลนคร และในวันนี้จะบินไปรับถุงยังชีพจาก จ.ขอนแก่น และนำไปแจกจ่ายในพื้นที่น้ำท่วมสูงของ อ.พรรณานิคม, อ.วานรนิวาส, อ.อากาศอำนวย และ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร รวมทั้งจะทำการสำรวจทางอากาศ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วมวิกฤติตามเส้นทางการบินด้วย
สำหรับการช่วยเหลือของกองทัพบกที่ร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่น้ำท่วมนั้น ในขณะนี้เน้นการเสริมแนวป้องกันน้ำท่วม อพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของ ดูแลประชาชนในศูนย์พักพิง อำนวยความสะดวกในการสัญจร เร่งระบายน้ำด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ใช้รถครัวสนามปรุงอาหารสดแจกจ่ายให้กับประชาชน และจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ดูแลสุขภาพของประชาชนและดำเนินการด้านเวชกรรมป้องกันโรคที่มากับน้ำ ที่ จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่ทุกส่วนยังคงดูแลการดำรงชีวิตประจำวันในด้านอาหารและการสัญจร รวมทั้งการเร่งระบายน้ำ
นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้เพิ่มเติมกำลังจาก กรมทหารราบที่ 13 พร้อมเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย เข้าไปดูแลใน อ.พรรณานิคม และ อ.วานรนิวาส เนื่องจากปริมาณน้ำยังอยู่ในระดับสูงและขยายวงกว้าง นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยังได้เข้าช่วยก่อสร้างสะพานแบรี่เชื่อมต่อระหว่าง จ.สกลนคร และ อุดรธานี ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเสียหายจากน้ำท่วม คาดว่าในวันนี้จะเปิดใช้สะพานดังกล่าวได้
ส่วนที่ จ.นครพนม การช่วยเหลือขณะนี้เร่งด่วนอยู่ที่พื้นที่วิกฤติใน อ.นาแก และ อ.นาหว้า เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจาก จ.สกลนคร โดยขณะนี้ได้เร่งอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคอีสานในขณะนี้ อาจมีน้ำล้นตลิ่งหรือน้ำเอ่อล้นในหลายพื้นที่ เนื่องจากทิศทางของน้ำจะไหลสู่แม่น้ำโขงและอาจมีการระบายนำจากเขื่อนลำปาว ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้มอบหมายให้หน่วยทหารประจำพื้นที่ในจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังและอาจได้รับผลกระทบ อาทิ จ.นครพนม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และยโสธร ได้เพิ่มเติมกำลังเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำ และดูแลประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้ปลอดภัยแล้ว