พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยรัฐบาลต้องเร่งช่วยเหลือดูแลและฟื้นฟูความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่ ซึ่งเคยใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้มีการกำหนดแผนงาน มาตรการต่างๆ ไว้ค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ได้อนุมัติมาตรการการช่วยเหลือให้กับกระทรวงการคลังแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะเตือนประชาชนคือขอให้เชื่อคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานราชการที่พยายามเตือนมาโดยตลอด ซึ่งหากไม่เชื่อก็จะส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทุกคนต้องเตรียมความพร้อมรองรับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะรอการช่วยเหลือจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน เพื่อแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน
"ธรรมชาติได้เตือนให้คนได้มีการเตรียมความพร้อม และขอให้เข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติ เช่นเดียวกับต่างประเทศที่เผชิญภัยธรรมชาติเช่นกัน ทั้งไฟป่าและน้ำท่วม"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกลงมามาก ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอ่างเก็บน้ำห้วยทรายที่จังหวัดสกลนครแตกจริงหรือไม่จริงนั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระ เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดมาจากปริมาณฝนที่มาก รวมถึงน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาไหลลงสู่ที่ต่ำจนส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้อ่างเก็บน้ำรองรับน้ำในปริมาณที่มากกว่า 2 ล้านลูกบาศก์เมตร อีกทั้งอ่างเก็บน้ำมีอายุมากกว่า 63 ปี จึงทำให้น้ำล้นถือเป็นเรื่องธรรมดา อย่าโยนให้ใครรับผิดชอบ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นไม่มีการปกปิดข้อมูลใดๆ กับประชาชน เพราะได้มีการเตือนให้เฝ้าระวังทุกพื้นที่ ซึ่งกรณีนี้เมื่อมีปริมาณน้ำล้นสันอ่างเก็บน้ำ จึงมีการกัดเซาะมีรอยแตก 2 ช่วง นอกจากอ่างเก็บน้ำมีลักษณะตื้น ส่งผลต่อการรับน้ำ อีกทั้งอ่างเก็บน้ำไม่ได้เตรียมการรองรับปริมาณน้ำมากขนาดนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องปริมาณน้ำและสภาพอากาศ โดยเฉพาะเรื่องพายุฝน และห้วงเวลาที่จะมีฝนตกดหนัก และอย่าไปเปรียบเทียบเหตุการณ์ครั้งนี้กับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 เพราะเป็นคนละสถานการณ์ และให้แก้ปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด ไม่อยากให้ฟังคนเก่าๆ ที่ออกมาให้ข้อมูลในลักษณะโต้กันไปมา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นการให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้เตรียมการไว้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุการณ์ แต่ได้หารือกับ ครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าไม่อยากให้เป็นภาระและเกิดความวุ่นวาย เพราะหลายหน่วยงานจะต้องมาชี้แจงรายงานสถานการณ์ อีกทั้งยังต้องเตรียมการเรื่องการเดินทางในพื้นที่ ขณะที่สิ่งสำคัญที่สดคือการเร่งช่วยเหลือประชาชน จึงยังไม่ตัดสินใจลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ เพราะตนเองไม่อยากให้เกิดความสับสน แต่ยืนยันว่าได้บัญชาการการแก้ปัญหากับทุกหน่วยงานมาโดยตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รายงานสถานการณ์และความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และได้ขับเคลื่อนแผนเผชิญเหตุ พร้อมตั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไว้ล่วงหน้า ทำให้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังได้หารือและเตรียมมาตรการเพื่อรองรับเหตุการณ์ในอนาคตด้วย และเห็นว่ายังต้องเข้าไปตรวจสอบสภาพป่าบนเทือกเขาว่ามีการถูกบุกรุกหรือไม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหาที่ธรรมชาติส่งสัญญาณเตือน ดังนั้นทุกคนจึงไม่ควรมาตัดพ้อหรือโทษกันไปมา เพราะที่สำคัญอยู่ที่ร่วมกันเตรียมความพร้อมสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง