กรมชลประทานเร่งซ่อมแซมและเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำกัดเซาะพนังกั้นลำน้ำชี ระดมคน เครื่องจักร เครื่องมือ ร่วมหน่วยงานในพื้นที่ เข้าคลี่คลายสถานการณ์น้ำในพื้นที่การเกษตร เขตชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำจากแม่น้ำชีตอนบนและลำน้ำพองที่ไหลมาบรรจบกับปริมาณน้ำที่ไหลมาจากลำปาวมีแนวโน้มลดลง ซึ่งขณะนี้ยอดน้ำกำลังเคลื่อนตัวผ่านแม่น้ำชีตอนล่าง คาดว่าอีกประมาณ 2 วันข้างหน้าจะทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งที่ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ก่อนลงสู่แม่น้ำมูล ปัจจุบันนี้ ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี ในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ กรมชลประทานได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนำเครื่องจักร เครื่องมือ และกระสอบทรายเข้าช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจะเกิดการกัดเซาะบริเวณพนังกั้นแม่น้ำชี เช่นที่บ้านโนนแดง บ้านสะดำสี บ้านหนองคล้า ตำบลลำชี อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำเครื่องจักร เครื่องมือ และกระสอบทรายเข้าป้องกันพนังกั้นน้ำชีไว้แล้ว
สำหรับในส่วนของพนังกั้นลำน้ำชี บริเวณบ้านไผ่ล้อม บ้านคุยขนวน ตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งพบว่ามีการรั่วซึมประมาณ 2 เมตร ต่ำกว่าระดับสันพนังด้านฝั่งน้ำชี 3 เมตร และรั่วซึมออกด้านท้ายที่ระดับลึก 5 เมตร กรมชลประทานสนับสนุนรถขุดดินมาถมปิดด้านหน้าพร้อมบดอัดแน่นบริเวณหน้าท่อในลำน้ำชีและได้รับการสนับสนุนกำลังพลจาก มณฑลทหารบกที่ 27 ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน ช่วยกันบรรจุกระสอบทรายนำมาปิดอัดด้านหน้าบริเวณจุดรั่วซึม เพื่อป้องกันและยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายในพื้นที่น้ำท่วม
นอกจากนี้ในพื้นที่อื่น ๆ กรมชลประทานได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังจุดเสี่ยงภัยต่างๆ อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงตามที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และได้มอบนโยบายกรมชลประทานประสานให้ความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด