กรมชลประทาน ยังคงติดตามเฝ้าระวังและควบคุมจัดจราจรน้ำในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยได้ลดบานประตูของเขื่อนราษีไศล ซึ่งจะช่วยชะลอน้ำจากแม่น้ำมูลไม่ให้ไหลไปรวมกับแม่น้ำชีที่จังหวัดอุบลราชธานีในเวลาเดียวกัน พร้อมกันนี้ได้เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนให้น้อยที่สุด
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษากรมชลประทาน กล่าวว่า หลังจากที่กรมชลประทานมีการจัดจราจรน้ำในแม่น้ำมูลเมื่อวานนี้เป็นวันแรก โดยการลดบานประตูของเขื่อนราษีไศล อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ให้อยู่ที่ระดับ +118.08 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ซึ่งต่ำกว่าระดับควบคุมที่ +119.00 ม.รทก. ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนราษีไศลเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 24 เซนติเมตร แต่จะควบคุมไม่ให้สูงเกินกว่าระดับเก็บกัก จากการลดบานจะช่วยชะลอการไหลของน้ำในแม่น้ำมูลด้านท้ายเขื่อนให้มีปริมาณน้ำลดลง
อย่างไรก็ตามจากการติดตามสถานการณ์น้ำพบว่าระดับน้ำที่เขื่อนหัวนา อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ตอนล่างของแม่น้ำมูลในจังหวัดศรีสะเกษ มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 9 เซนติเมตร จากเมื่อวานอยู่ที่ระดับ +114.09 ม.รทก. คาดว่าหากไม่มีน้ำจากลำน้ำสาขาและฝนที่ตกในพื้นที่เพิ่มเติม จะทำให้ปริมาณน้ำที่ฝายหัวนามีแนวโน้มทรงตัวและน่าจะลดลง เนื่องจากผลของการลดบานระบายน้ำเขื่อนราษีไศล
สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี กรมชลประทานยังคงติดตามเฝ้าระวังและควบคุมจัดจราจรน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยที่เขื่อนธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานีปัจจุบันระดับน้ำสูงกว่าระดับน้ำเก็บกัก 2.19 เมตร เพิ่มสูงขึ้นเป็น 25 เซนติเมตร จากเวลา 6.00 น. ของเมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม 2560) และมีอัตราการระบายน้ำ 1,297 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ำจากฝนที่ตกในพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่บริเวณเหนือและท้ายเขื่อนธาตุน้อย ประมาณ 42,000 ไร่ โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีล่างได้แจ้งเตือนประชาชนทราบแล้ว และกรมชลประทานได้เตรียมเครื่องผลักดันน้ำไว้ จำนวน 8 เครื่อง และจะดำเนินการติดตั้งทันทีเพื่อช่วยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
ด้านสถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำมูลปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ +112.83 ม.รทก. เพิ่มขึ้น 5 เซนติเมตร จากเวลา 6.00 น. ของวันที่ 7 สิงหาคม 2560 เข้าท่วมตลิ่งฝั่งขวาบริเวณอำเภอวารินชำราบ 0.83 เมตร มีอัตราการไหล 2,798.00 ลบ.ม./วินาที และมีแนวโน้มสูงขึ้น (อัตราการระบายลงแม่น้ำโขงที่เขื่อนปากมูล 2,802 ลบ.ม/วินาที)
รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การจัดจราจรน้ำในแม่น้ำมูลโดยการลดบานระบายน้ำเขื่อนราศีไศลนั้น จะเป็นผลดีต่อการชะลอน้ำจากแม่น้ำมูลไม่ให้ไหลไปรวมกับแม่น้ำชีที่จังหวัดอุบลราชธานีในเวลาเดียวกัน
"ผลจากการลดบานระบายในวันแรกนั้น ยังไม่เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนนักเนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล อาทิ ปริมาณน้ำจากลำห้วยสำราญ และลำห้วยขะยุง เข้ามาเติม"
นอกจากนี้ กรมชลประทานยังคงเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนให้น้อยที่สุด