นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามสถานการณ์น้ำ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาเห็นว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนสำคัญบางเขื่อนของประเทศยังมีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ และมีความต้องการให้กรมฝนหลวงฯ ปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในเขื่อนจำนวน 10 เขื่อนของแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันตก ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ภาคตะวันออก ได้แก่ เขื่อนพระปรง จังหวัดสระแก้ว อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา และเขื่อนพลวง จังหวัดจันทบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา และภาคใต้ ได้แก่ เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และเขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ ได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงที่ดูแลพื้นที่ในความรับผิดชอบปฏิบัติการเติมน้ำให้กับเขื่อนสำคัญ 10 เขื่อนให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว เพื่อเตรียมรองรับฤดูแล้งที่จะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน 2560 และกำชับให้ระมัดระวังพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังในบางแห่งด้วย
สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงให้กับพื้นที่การเกษตรที่ยังมีการขอรับบริการฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณอำเภอปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา และบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำตะคอง และมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณพื้นที่การเกษตร อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ส่วนการปฏิบัติการฝนหลวงทางภาคเหนือในพื้นที่เป้าหมายเขื่อนแม่กวงอุดมธาราและเขื่อนภูมิพล โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดตาก พบว่า มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด อมก๋อย และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนภูมิพล จังหวัดเชียงใหม่ และมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณพื้นที่อำเภอสามเงา จังหวัดตาก และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพลตอนล่าง