นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนสุทธาวาส และสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ ว่า สำนักงานเขตบางกอกน้อยได้รายงานการดำเนินการรื้อย้ายบ้านที่รุกล้ำแนวขยายถนนสุทธาวาส ตั้งแต่บริเวณคลองวัดไชยทิศจนถึงคลองชักพระ พบว่ามีอาคารและสิ่งปลูกสร้างอยู่ในที่ดินริมทางรถไฟ จำนวน 36 หลัง ซึ่งในวันนี้ได้เริ่มดำเนินการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างจำนวน 8 หลัง ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะดำเนินการรื้อย้ายในวันที่ 30 ก.ย.นี้
ที่ผ่านมาสำนักงานเขตบางกอกน้อยได้ลงพื้นที่พูดคุยเจรจากับประชาชนที่ปลูกสร้างอาคารร้านค้ารุกล้ำในแนวขยายถนนสุทธาวาส เพื่อสร้างความเข้าใจและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมในโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของสิ่งปลูกสร้างมาแสดงตัวหรือมาพบเจ้าหน้าที่ภายใน 7 วัน เพื่อที่จะทำการออกคำสั่งตามกฎหมายควบคุมอาคารแก่บุคคลที่มาแสดงตัว หากไม่มีเจ้าของสิ่งปลูกสร้างมาแสดงตัวจะทำการออกคำสั่งแจ้งการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้ดำเนินการรื้อย้ายออกไป
"ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการวางท่อระบายน้ำและสร้างบ่อพักจากช่วงตั้งแต่ถนนจรัญสนิทวงศ์ถึงคลองชักพระในฝั่งซ้ายของถนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนฝั่งขวาของถนนด้านที่ติดกับทางรถไฟสายใต้ ซึ่งเหลือความยาวท่อระบายน้ำที่ต้องดำเนินการอีกประมาณ 200 เมตร แต่ติดขัดเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวขยายถนนสุทธาวาส" นายจักกพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้เมื่อโครงการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนสุทธาวาสและสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์แล้วเสร็จจะสามารถบรรเทาปัญหาจราจรติดขัด อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ตลอดจนเชื่อมโยงโครงข่ายถนนเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์และพื้นที่ใกล้เคียงให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น