สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจ""การเมืองไทย"หลังจากยิ่งลักษณ์หนี ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล" พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่ามีผลกระทบต่อการเมืองไทยในด้านดี ที่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง และลดการปะทะ ส่วนด้านลบทำให้ประเทศเสียชื่อเสียง การเมืองเสียหาย ขณะที่ผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย ทำให้ต้องหาผู้นำใหม่และทำให้การหาเสียงลำบาก โอกาสตั้งรัฐบาลน้อยลง
สวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,187 คน ระหว่างวันที่ 4-8 กันยายน 2560
ผลสำรวจ กรณีประชาชนคิดว่าสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างไร หลังจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลในคดีรับจำนำข้าว โดยพบว่า อันดับ 1 ต้องรอดูอนาคตการเมืองไทยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป 77.34% อันดับ 2 ทุกพรรคทุกฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็น เคลื่อนไหวมากขึ้น 72.54% อันดับ 3 ยังมีคลื่นใต้น้ำ มีความขัดแย้ง แบ่งพรรคแบ่งพวก 66.64% อันดับ 4 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เล่นเกมการเมือง 65.37% และอันดับ 5 รอให้มีการจัดการเลือกตั้ง ประชาชนได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง 50.80% กรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อการเมืองไทยในภาพรวมอย่างไรบ้าง โดยผลกระทบด้านดี ได้แก่ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ลดการปะทะ 82.31% ,การเคลื่อนไหวลดลง ไม่มีชุมนุมประท้วง 70.35% ,สถานการณ์ทางการเมืองเย็นลง ไม่ตึงเครียด 68.41% ,พรรคการเมืองอื่น ๆ มีโอกาสมากขึ้น 66.13% และรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น 53.66% ส่วนผลกระทบด้านลบ ได้แก่ ประเทศเสียชื่อเสียง การเมืองเสียหาย 79.44% ,รัฐบาลถูกจับตามอง โดนจ้องจับผิด 72.45% ,ไม่เป็นประชาธิปไตย สองมาตรฐาน 69.33% ,นักการเมืองขาดความน่าเชื่อถือ 64.95% และทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น 61.50%
นอกจากนี้กรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองอื่น ๆ อย่างไรบ้าง โดยผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย ได้แก่ ต้องหาผู้นำใหม่ เปลี่ยนแกนนำ 80.88% ,หาเสียงลำบาก โอกาสตั้งรัฐบาลน้อย 75.40% ,เกิดการแบ่งกลุ่มภายในพรรค 70.18% ,อาจมีผลต่อคะแนนนิยม ฐานเสียง 60.40% และต้องเปลี่ยนนโยบาย ยุทธศาสตร์ 58.80% ส่วนผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่น ๆ ได้แก่ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน 71.10% ,เป็นคดีตัวอย่าง ทำให้ไม่กล้ากระทำผิด 67.73% ,ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางในการหาเสียง 63.86% ,ต้องปรับตัว สร้างความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น 51.31% และมีโอกาสชนะการเลือกตั้งมากขึ้น 48.10%