นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 12 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย ชัยนาท นครสวรรค์ สิงห์บุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง ปทุมธานี และนนทบุรี ใช้กลไกประชารัฐประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอการปลูกข้าวนาปรัง ปี 60-61 รอบสอง (นาปีต่อเนื่อง) โดยให้ดำเนินการเพาะปลูกในช่วงต้นฤดูแล้ง ปี 60-61 ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำและเพาะปลูกพืชฤดูฝน ปี 60 ของกรมชลประทาน และมีพื้นที่รองรับน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก ซึ่งจะช่วยป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
โดยจากการประสานข้อมูลสถานการณ์น้ำร่วมกับกับกรมชลประทาน พบว่า กรมชลประทานได้วางแนวทางการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 60 ตามแผนการบริหารจัดการน้ำและเพาะปลูกพืชฤดูฝนปี 60 ให้สอดคล้องกับนโยบายการผลิตข้าวครบวงจรจำนวน 15.95 ล้านไร่ โดยส่งน้ำให้พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณเหนือจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 0.265 ล้านไร่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรได้ดำเนินการเพาะปลูกเต็มพื้นที่และเก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อยแล้ว
สำหรับการส่งน้ำให้พื้นที่ลุ่มต่ำตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์จำนวน 1.15 ล้านไร่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.60 ปัจจุบันเกษตรกรดำเนินการเพาะปลูกเต็มพื้นที่และเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วจำนวน 0.69 ล้านไร่ คาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จทั้งหมดในวันที่ 15 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ได้กำหนดใช้พื้นที่ลุ่มต่ำดังกล่าวซึ่งเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเป็นพื้นที่รองรับน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก แต่พบว่าพื้นที่นาซึ่งเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วบางส่วนยังคงมีน้ำคงค้างอยู่ในทุ่ง ทำให้สามารถดำเนินการเพาะปลูกได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม 2560 ปริมาณฝนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางจะสูงกว่าค่าปกติ หากทำการเพาะปลูกข้าวต่อเนื่องในพื้นที่ลุ่มต่ำอาจส่งผลให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย