พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานกรณีทุจริตเงินทอดวัด ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบทั้งหมดคือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความคิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ กำลังดำเนินงานสืบสวนตามอำนาจหน้าที่อย่างเร่งด่วน โดยให้สำนักงาน ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานกลางรวบรวมฐานข้อมูล เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน
“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการว่า ในกรณีที่แต่ละหน่วยงานตรวจพบเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดให้ส่งเรื่องไปยัง สำนักงาน ป.ป.ช. หรือสำนักงาน ป.ป.ท. ตามเงื่อนไขที่กำหนดเป็นการด่วน พร้อมทั้งส่งเรื่องให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เพื่อแจ้งให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยทันที"
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่ากระบวนการตรวจสอบวัดและผู้เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสอบสวนภายในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบวัดทั่วประเทศ มุ่งให้เกิดการสร้างความร่วมมือที่ดีกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะมหาเถรสมาคม ลดปัญหาความขัดแย้งทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นและสร้างการยอมรับจากประชาชน ทั้งนี้ ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้นำหน่วยคนใหม่นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถ ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ หน่วยงานภายนอก และเจ้าหน้าที่ใน พศ.เอง ร่วมทั้งทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนได้อย่างใกล้ชิดและเป็นไปด้วยความราบรื่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของหน่วยงาน โดยเฉพาะภารกิจสำคัญ 4 เรื่องที่ได้ให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้
“สำหรับสถิติการตรวจสอบเบื้องต้นของแต่ละหน่วยงานนั้น ขณะนี้ ปปป.ดำเนินการแล้ว 79 เรื่อง สตง. 185 เรื่อง ป.ป.ท.46 เรื่อง กรมสอบสวนคดีพิเศษ 56 เรื่อง ป.ป.ช.60 เรื่อง ปปง. รับเรื่องต่อมาจาก ปปป. 12 เรื่อง และสตง. อีก 123 เรื่อง เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ทั้งนี้ เมื่อตัดเรื่องที่ซ้ำซ้อนกันออกแล้วจะมีจำนวนเรื่องที่ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วทั้งหมด 399 เรื่อง ส่วนเรื่องที่เข้าสู่ขั้นตอนการสั่งไต่สวนของ ป.ป.ช.แล้ว มี 2 เรื่อง และอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเสนอไต่สวนหรือไม่อีก 133 เรื่อง"โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว