รมว.เกษตรฯ ชงแผนพัฒนาภาคกลาง-หนุนนาแปลงใหญ่-โครงการบริหารจัดการน้ำเร่งด่วน เข้าครม.สัญจร

ข่าวทั่วไป Monday September 18, 2017 16:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าในการลงพื้นที่เดินทางไปตรวจราชการ จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยาของคณะนายกรัฐมนตรี และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่าง 18 - 19 ก.ย.นี้ ว่า กระทรวงเกษตรฯนำเสนอข้อมูล 3 ส่วนหลัก คือ “ทิศทางการพัฒนาภาคกลาง" ผ่านวีดีทัศน์ การยกระดับการปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ ศพก. และ โครงการ 9101ฯ และโครงการเปิดน้ำเข้านา - ปล่อยปลาเข้าทุ่ง และ การบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคกลาง ณ ปตร.บ้านแพน ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

สำหรับเนื้อหาในวิดิทัศน์ “ทิศทางการพัฒนาภาคกลาง" ของกระทรวงเกษตรฯ ได้สรุปแนวทางการพัฒนาด้านกาเกษตร เพื่อบรรลุยุทธศาสตร์การพัฒนาฯ ของรัฐบาล อาทิ การบริหารจัดการน้ำเพื่อให้มีน้ำเพียงพอ และ ลดความเสี่ยง การยึดคืนพื้นที่ ส.ป.ก. พร้อมพัฒนา และจัดสรรให้เกษตรกรที่ยากไร้ ลดความเหลื่อมล้ำ การเสริมสร้าง ศพก. ให้เข้มแข็ง การส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่ การปรับเปลี่ยนการเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้/ผลผลิต โครงการ 9101ฯ เพื่อสร้างความเข้มแข็งชุมชน และ วางรากฐานการพัฒนาภาคการเกษตร เป็นต้น

ขณะที่โรงเรียนชาวนา จ.สุพรรณบุรี ซึ่งทางจังหวัดได้ดำเนินการโรงเรียนชาวนา จ.สุพรรณบุรี ณ สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ภายในศูนย์วิจัย ข้าวสุพรรณบุรี ตั้งแต่ปี 2558 โดยนักเรียนมาจากเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรกร ศพก., เกษตรกรแกนนำ, ครูบัญชีอาสา, ผู้ใหญ่บ้าน และ เกษตรกรทั่วไป โดยเน้นการศึกษาระบบนิเวศในแปลงนา ได้แก่ การเก็บตัวอย่างดิน การคัดเมล็ดพันธุ์ การใช้ยาคุมยาฆ่าหญ้า การ ผลิตเชื้อไตรโคเดอร์มา, สารสะเดา/ฮอร์โมนไข่, โรคพืช, การบวนการ GAP และ การวิเคราะห์ต้นทุน - กำไร ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมา พบว่า นาแปลงใหญ่ ลดต้นทุน จาก 5,505 บาท/ไร่ เหลือ 4,405 บาท/ไร่ ศพก. ลดต้นทุน จาก 5,505 บาท/ไร่ เหลือ 4,405 บาท/ไร่ เกษตรกรแกนนำลดต้นทุน เหลือ 2,800 - 3,500 บาท/ไร่ เกษตรกรทั่วไป ลดต้นทุน จาก 5,705 บาท/ไร่ เหลือ 4,546 บาท/ไร่ ขณะที่การเกษตรแบบแปลงใหญ่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีแปลงใหญ่ จำนวน 30 แปลง แบ่งเป็น แปลงข้าว จำนวน 26 แปลง รวมพื้นที่ 42,045 ไร่ เกษตรกร 1,622 ราย แปลงผัก จำนวน 3 แปลง รวมพื้นที่ 532 ไร่ เกษตรกร 164 ราย แปลงปศุสัตว์ (พืชอาหารสัตว์) จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 358 ไร่ เกษตรกร 26 ราย

ซึ่งในส่วนของการทำนาแปลงข้าวเกษตรกรเริ่มทำการเพาะปลูกตั้งแต่เดือน เม.ย. 60 ตามแผนการปรับระยะเวลาการปลูกข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ ให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ทันก่อนน้ำหลาก สามารถใช้ทุ่งเป็นพื้นที่รับน้ำหลากได้ และมีการเก็บเกี่ยวผลผลิต ตั้งแต่ เดือน ส.ค. - ธ.ค. 60 โดยเป็นพันธุ์ข้าวคุณภาพเหมาะแก่การบริโภค 5 พันธุ์ และ มีผลผลิตข้าวเปลือกรวม 13,955.92 ตัน ดังนี้ 1. ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ผลผลิต 276.65 ตัน 2. ข้าวปทุมธานี 1 ผลผลิต 3,552.32 ตัน 3. ข้าวชัยนาท 1 ผลผลิต 589.97 ตัน 4. ข้าวพิษณุโลก 2 ผลผลิต 3,309.04 ตัน 5. ข้าว กข. 31 ผลผลิต 6,227.94 ตัน แปลงใหญ่ข้าว ได้มีการทำ MOU ระหว่างประธานแปลงใหญ่กับผู้ประกอบโรงสี ซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เกษตรกรขายผลผลิตให้กับโรงสีที่ทำ MOU และ โรงสีในพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับการบริหารจัดการน้ำภาคกลาง มีโครงการเร่งด่วนที่จะดำเนินการในปี 2561 - 2562 จำนวน 104 โครงการ เป้าหมายเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 500 ไร่ และ บรรเทาพื้นที่น้ำท่วม 2.5 ล้านไร่ งบประมาณ 37,645 ล้านบาท เป็นงบกลางปี 2561 จำนวน 5,354 ล้านบาท อาทิ การปรับปรุงคลองระพีพัฒน์ และ โครงข่ายระบบชลประทาน การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำบรรเทาอุทกภัยบางสะพาน การแก้ไขปัญหาพื้นที่แห้งแล้งรอยต่อจังหวัดสุพรรณบุรี - จังหวัดกาญจนบุรี (ฝาย) การปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายน้ำสู่แก้มลิงคลองมหาชัย - คลองสนามชัย/แม่น้ำท่า จีน (สถานีสูบน้ำ/เสริมคัน โครงการคลองน้ำหลากบางบาล - บางไทร และ ปตร.คลองบางหลวง เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ