พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฐานไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีโครงการจำนำข้าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในประเทศหรือนอกประเทศ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดยืนยันเลยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปพำนักอยู่ที่ใด
ขณะที่การสอบสวนตำรวจ 3 นายที่เกี่ยวข้องกับการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกไปทางด่านชายแดนกัมพูชานั้น ก็พบว่ามีการไปส่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ จ.สระแก้วเท่านั้น และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนหาตัวชายที่มีข้อมูลว่ามารับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ชายแดน และสืบสวนหารถกระบะและรถเบนซ์ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีมีข้อมูลพาดพิงถึงอดีต ผบ.ตร.รอง ผบ.ตร. และนายตำรวจยศ พล.ต.ท.นั้น คงต้องรอการดำเนินคดีทางอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องในการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนี ณ วันเกิดเหตุก่อน จึงจะขยายผลไป หากการดำเนินคดีอาญามีการพาดพิงถึงก็ต้องเชิญมา
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และพวกที่พัวพันกับรถที่นำพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปยัง จ.สระแก้วนั้น ได้ส่งผลการสอบสวนและบันทึกการให้ปากคำให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีในความผิดฐานใช้เอกสารปลอม กรณีป้ายทะเบียนรถยนต์ และตั้งกรรมการสอบวินัยตำรวจทั้ง 3 นายโดยต้นสังกัด ทั้ง บช.น.และ ภ.จว.นครปฐม
"ขณะนี้ขอให้เข้าใจการดำเนินคดีอาญาเป็นเพียงการดำเนินคดีในส่วนของการใช้ป้ายทะเบียนปลอมเท่านั้น ส่วนกรณีอื่นๆยังไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 และมาตราอื่นๆก็ไม่มีการระบุว่าการพาจำเลยไปไหน หรือหลบหนี มีความผิด อย่าลืมว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสถานะเป็นจำเลยเท่านั้น ตนในฐานะ ผู้รักษากฎหมายจะเอาอะไรไปเอาผิดกับคนเหล่านี้ในเมื่อกฎหมายไม่ได้ระบุว่าเป็นความผิด"พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันที่ 27 ก.ย.นี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกครั้งว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะเป็นหน่วยงานที่ประเมินกำลังว่าจะใช้มากน้อยแค่ไหน โดยยืนยันว่าตำรวจรักษาความปลอดภัยเต็มที่