กรมชลประทาน ระบุว่า ตามที่มีข่าวเผยแพร่ใน Social Media และถูกส่งต่อกันอย่างแพร่หลายโดยมีข้อความระบุว่า “พรุ่งนี้เข้าสู่สถานการณ์เตรียมพร้อม !ที่ รังสิต สะพานแดงน้ำท่วมคนในพื้นที่บอกว่า เขาจะปล่อยน้ำหลังวันที่ 26 นี้ตอนนี้น้ำมันเก็บไม่อยู่แล้วนั้น กรมชลประทานขอเรียนว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
กรมชลประทานยังคงระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2560 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน เวลา 06.00 น. ของวันที่ 27 ตุลาคม 2560 เขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และผันน้ำออกทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกรวม 769 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และไม่มีแผนเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแต่อย่างใด
ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราดังกล่าวได้ไหลมาถึงจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานครแล้ว ไม่ได้มีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด สำหรับพื้นที่น้ำท่วมด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะเป็นพื้นที่อยู่นอกคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอพรมบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 14 จุด เท่านั้น และปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานี C.29A อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันมีอัตราเฉลี่ย 2,826 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังต่ำกว่าความจุของลำน้ำมาก (ความจุลำน้ำ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแต่อย่างใด
สำหรับสถานการณ์น้ำพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ปริมาณน้ำที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ก็ลดลงมาโดยลำดับ โดยมีปริมาณน้ำผ่านสูงสุดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2560 ในอัตรา 3,059 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบัน ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2560 เวลา 06.00 น. มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,979 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งลดลงเทียบกับค่าสูงสุด 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และยังลดลงอย่างต่อเนื่อง
"จากภาพรวมสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบันจึงขอยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และกรมชลประทานไม่มีแผนเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแต่อย่างใด" เอกสารเผยแพร่ ระบุ