พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า ปริมาณน้ำในปีนี้มีค่อนข้างมาก เนื่องจากประเทศไทยได้รับอิทธิพล จากพายุโซนร้อน ตาลัส เซินกา พายุไต้ฝุ่นทกซูรี และพายุดีเปรสชั่น และเมื่อเปรียบเทียบกับ ณ เวลาเดียวกันในปี 54 มีปริมาณน้ำฝนรวมสะสม ที่ 1,798 มิลลิเมตร ซึ่งในทางสถิตินับว่ามีปริมาณใกล้เคียงกัน ทั้งนี้รัฐบาลได้พยายามบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมตามห้วงเวลาตั้งแต่ในช่วงก่อนน้ำมา และระหว่างน้ำมา เช่น การพัฒนาเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำ แก้มลิง ตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งประเทศ ,การวางแผนเวลาการระบายน้ำฤดูฝน ,การบริหารระดับน้ำในเขื่อนให้มีระดับเหมาะสม, การวางวางแผนใช้พื้นที่ทุ่งรับน้ำ, การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เช่น การกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในพื้นที่ต่าง และเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลต่างๆ โดยกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“ทั้งหมดได้มีการคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน โดยในส่วนพื้นที่สุดวิสัยที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลมีแผนการดูแลเยียวยาไว้แล้วตามความเหมาะสมและดีที่สุด อีกทั้งในพื้นที่ดังกล่าว นายกรัฐมนตรี สั่งการกำชับผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ" พ.อ.วินธัย กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า จากการติดตามการพยากรณ์อากาศ และการแจ้งเตือนจากหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา ในส่วนกองทัพบกนั้น ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้ให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน โดยทุกหน่วยอยู่ในขั้นระหว่างการให้ความช่วยเหลือ ร่วมกับหน่วยงานรัฐในพื้นที่ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ จะได้ติดตามและกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด
สำหรับภาพรวมขณะนี้ทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ศบภ.ทบ.)ได้ส่งกำลังพลจำนวน 31 กองร้อย ช่วยเหลือประชาชนเข้าปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบทั้ง 22 จังหวัด ในพื้นที่ภาค เหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย ทาง ศบภ.ทบ. ส่วนกลางได้มีการเตรียมการที่จะสนับสนุนเพิ่มเติม ในเรื่องจำเป็นต่างๆ เอาไว้ ทั้งเรื่องคน และ เครื่องมือต่างๆ ไว้คอยเสริม กรณีจำเป็น หรือเมื่อมีการร้องขอเข้ามา