สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ประชุมวางมาตรการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 2-4 พ.ย.นี้ พร้อมลงพื้นที่ย่านภูเขาทอง (วัดสระเกศ) เพื่อตรวจสอบและกวดขันร้านจำหน่ายพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง ที่ถือเป็นแหล่งจำหน่ายใหญ่ในกรุงเทพฯ พร้อมสั่งการให้ทุกพื้นที่จับกุมแหล่งจำหน่ายพลุทั่วประเทศ
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า ตำรวจสามารถจับกุมร้านจำหน่าย พลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง 2 ร้าน คือ ร้านย่านถนนบำรุงเมือง และหลังป้อมมหากาฬ ถือเป็นการปิดตำนานแหล่งขายพลุที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีใบอนุญาตจำหน่าย จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยมีโทษปรับ 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน พร้อมยึดของกลางทั้งหมดภายในร้านจำนวนมาก
"ส่วนร้านค้าที่มีในอนุญาตจำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิง ที่ออกโดยเจ้าพนักงานสำนักงานเขต ยังคงสามารถจำหน่ายได้ โดยห้ามจำหน่ายให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี แล้วต้องมีการประชาสัมพันธ์วิธีการเล่น และความเสี่ยงในการเล่นให้ทราบชัดเจน แต่จากนี้จะไม่มีการอนุญาตให้มีการจำหน่ายพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิงย่านภูเขาทองโดยเด็ดขาด" พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว
สำหรับผู้ที่จุดพลุ ตะไล และโคมลอยขึ้นสู่อากาศในพื้นที่ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นนั้น จะมีความผิดตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมฝากถึงประชาชนหากพบเห็นการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิงในช่วงเทศกาลลอยกระทง ให้ถ่ายคลิปวิดิโอแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหารและฝ่ายปกครอง ได้วางมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยดูแลความเรียบร้อยภายบริเวณจุดสำคัญต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ