พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านมานั้น นับว่ามีสถานการณ์น่าเป็นห่วง เห็นได้จากสถิติผู้ต้องขังคดียาเสพติดทั่วประเทศ มากถึงร้อยละ 72 ของผู้ต้องขังทั้งหมด รัฐบาลนี้จึงต้องเร่งดำเนินการและใช้มาตรการที่เข้มงวด โดยใน 9 เดือนแรกของปี 2560 สามารถจับกุมและดำเนินคดีผู้ต้องหา ในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ถึง 2 แสนกว่าราย ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่เราภาคภูมิใจ แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความหนักหน่วงของปัญหา ที่จะส่งผลต่อคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ในการขับเคลื่อนประเทศของเราในอนาคต รวมความวันนี้ด้วย
รัฐบาลนี้ และ คสช. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวทั้งการป้องกันที่ต้นเหตุ และ การปราบปรามเพื่อระงับเหตุ กล่าวคือ ในการป้องกันปัญหาสร้างภูมิคุ้มกันแต่เนิ่น ในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยมีการใช้สื่อการสอน ตั้งแต่ระดับปฐมวัยให้เห็นโทษของยาเสพติด เสริมสร้างทักษะชีวิต และจัดให้มีนักเรียนแกนนำสำหรับดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อให้ลูกหลานของเราห่างไกลยาเสพติด
สำหรับกลุ่มผู้ใช้แรงงานได้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจผ่านโครงการโรงงานสีขาวและการป้องกันยาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชน ผ่านกลไกประชารัฐ กองทุนแม่ของแผ่นดินในส่วนของการปราบปรามยาเสพติดนั้น เราได้กระชับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อปฏิบัติการเชิงรุก ณ แหล่งผลิต สกัดกั้นเส้นทางขนย้ายเข้าสู่ชายแดนไทยด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ข่าวกรอง เพื่อร่วมกันปราบปราม ทำลายขบวนการค้ายา ทั้งภายนอกและภายในประเทศ
ที่สำคัญอีกด้าน คือโครงการช่วยฟื้นฟูผู้ติดยา เพื่อคืนคนดีสู่สังคมให้สามารถกลับมาเป็นคนที่มีคุณภาพ ประกอบสัมมาอาชีพเพื่อเลี้ยงปากท้องของตนเองและครอบครัวได้ต่อไป สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือการสร้างบรรยากาศปลอดภัยจากยาเสพติดนอกรั้วบ้านส่วนในทุกหลังคาเรือนนั้น ความอบอุ่นในครอบครัวจะเป็นเกราะป้องกันลูกหลานของเรา ให้รอดพ้นสิ่งเสพติดและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ทั้งผู้ที่เคยผิดพลาดในอดีต และผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในวัยคึกคะนอง