แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยได้กำชับผู้บริหารในภูมิภาคทั่วประเทศทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานบริการในความรับผิดชอบ พร้อมปรับให้สอดคล้องตามบริบทของพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่มีความเสี่ยงเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชนผู้มารับบริการ รวมทั้งทรัพย์สินของทางราชการ
"ให้ผู้บริหารในพื้นที่ ประกอบด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ทบทวนมาตรการที่มีอยู่ ปรับให้สอดคล้องตามบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ หากพื้นที่ใดมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับพื้นที่ หรือต้องการสนับสนุนจากส่วนกลางเป็นการเฉพาะ ให้แจ้งได้ที่ผู้ตรวจราชการประจำเขตสุขภาพได้ทันที เพื่อให้จัดบริการประชาชนได้ครอบคลุมทั้งในและนอกเวลาราชการ โดยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชนผู้มารับบริการ มีความปลอดภัย" แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าว
สำหรับมาตรการความปลอดภัยที่กระทรวงฯ ได้ประกาศให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพิ่มมาตรการให้สถานบริการในสังกัด โดยเฉพาะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่อยู่ห่างไกลมี 7 ข้อ ประกอบด้วย 1.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด/โรงพยาบาลแม่ข่าย จัดให้มีระบบป้องกัน ระบบเตือนภัย เช่น กล้องวงจรปิด กริ่งสัญญาณ เป็นต้น 2.คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ เครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอ วิเคราะห์พื้นที่เพื่อกำหนดการจัดเวรนอกเวลาราชการ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนตามบริบทของแต่ละพื้นที่ 3.ส่งเสริมการใช้ช่องทาง สายด่วน 1669 ป้ายประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการเข้ารับบริการ รวมทั้งการมาติดต่อนอกเวลาราชการควรมีญาติมาด้วย 4.จัดเจ้าหน้าที่ชายหรือจัดระบบการขึ้นเวรคู่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ จิตอาสา อสม. ญาติ เพื่อนบ้านใกล้เคียงสถานบริการ 5.จัดให้มีระบบเวรยามรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ทั้งนี้ อาจดำเนินการร่วมกับ ภาคีเครือข่าย อบต.เทศบาล ผู้นำ กู้ชีพ กู้ภัย จิตอาสา ตำรวจ เป็นต้น 6.จัดหาป้อมยามชุมชนให้อยู่ใกล้ๆ หรือจัดระบบเชื่อมโยงที่ติดต่อได้ 7.สร้างรั้วชุมชน สัมพันธภาพเพื่อนบ้าน