พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุสำคัญที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ รัฐบาลได้กำหนดให้การสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ภายใต้กรอบทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2554-2563
ทั้งนี้ ศปถ.จึงได้จัดประชุม นปถ.เพื่อพิจารณาแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2560-2563 ตามวิสัยทัศน์ "มุ่งมั่นสู่มาตรฐานการสัญจรที่ปลอดภัยด้วยกัน" (Committing to Standard of Safe Journey Together) โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านผู้ใช้รถใช้ถนน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อม ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ ดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การปฏิรูประบบการจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน โดยเพิ่มขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการขององค์กร ควบคู่กับการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูล และกลไกการประเมินผลที่ครบวงจร พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายจราจร รวมถึงผลักดันการจัดตั้งสถาบันวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน โดยบรรจุเรื่องความปลอดภัยทางถนนในหลักสูตรการศึกษาและกิจกรรมเสริมทุกระดับชั้น รณรงค์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนนผ่านทุกช่องทาง ส่งเสริมการสร้างผู้ขับขี่คุณภาพด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในการออกใบอนุญาตขับรถตามมาตรการ "ออกยาก ยึดง่าย"
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ประเทศไทยขนส่งทางถนนปลอดภัย 4.0 โดยยกระดับปลอดภัยของยานพาหนะและถนนตามมาตรฐานสากล อีกทั้งส่งเสริมการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ประชารัฐเพื่อถนนปลอดภัย โดยสร้างการมีส่วนร่วมลดอุบัติเหตุทางถนนในทุกภาคส่วน ด้วยการดำเนินมาตรการองค์กรด้านการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย การส่งเสริมให้ภาคเอกชนดำเนินกิจกรรม CSR ด้านความปลอดภัยทางถนน การกำหนดกติกาชุมชนป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ ที่ประชุม นปถ.ยังได้พิจารณารายงานผลการศึกษาจัดตั้งสถาบันวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนน พร้อมเสนอให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการศึกษารูปแบบ ขั้นตอนการจัดการ และอำนาจหน้าที่ขององค์กร อีกทั้งพิจารณาแนวทางการบูรณาการข้อมูลเพื่อใช้ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน : ข้อมูล 3 ฐาน ได้แก่ ข้อมูลมรณบัตรจากกระทรวงสาธารณสุข, ข้อมูล POLIS จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้อมูล eClaim จากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เพื่อให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนของประเทศมีเอกภาพบนฐานข้อมูลเดียวกันสำหรับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ในการอ้างอิง รวมถึงประกอบการกำหนดมาตรการและพัฒนางานด้านความปลอดภัยทางถนนให้มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายในการสร้างประเทศไทยให้มีการสัญจรปลอดภัยตามมาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน
ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดี ปภ.ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ นปถ. กล่าวว่า ปภ.ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ นปถ.จะได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากที่ประชุม นปถ.ไปแก้ไขเพิ่มเติมให้แผนแม่บทด้านความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2560-2563 ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกประเด็น ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบสำหรับเป็นกรอบแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีเอกภาพและเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ศปถ.ได้มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนให้เป็นระบบ และให้ความสำคัญกับการดำเนินงานลดปัจจัยเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนนในทุกด้าน เพื่อขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง