(เพิ่มเติม) ThaiBMA เผย Q1/61 ตลาดตราสารหนี้ไทยมียอดคงค้าง 11.77 ล้านลบ.โต 1.8% จากสิ้นปี 60 ต่างชาติซื้อสุทธิเพิ่ม 3.87 หมื่นลบ.

ข่าวทั่วไป Tuesday April 10, 2018 12:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในไตรมาสแรกของปี 61 ยังคงเติบโตได้ดีมีมูลค่าคงค้างรวม 11.77 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จาก 11.56 ล้านล้านบาทเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา

ส่วนการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนเริ่มเห็นการปรับตัวขึ้นของตลาดก่อนเกณฑ์ใหม่การออกตั๋ว B/E และหุ้นกู้ โดยผู้ออกที่มีอันดับเครดิตสูงใน Real sector เร่งการออกหุ้นกู้และเน้นขายให้กลุ่มนักลงทุน ll/HNW เป็นหลักในอนาคตจะถูกกำหนดให้ต้องมีผู้แทนผู้ถือหุ้นหู้หากเสนอขายให้ HNW ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่ออกตราสารหนี้ระยะยาวสูงสุดคือ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยมียอดการออกเพิ่มขึ้น 110% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านตราสารหนี้ระยะสั้น ในภาพรวมยังมีการออกเพิ่มขึ้นแต่มูลค่าการออกจาก Real sector ปรับลดลง 18% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนใหญ่ลดลงจากผู้ออกกลุ่ม Non-rated ซึ่งยังคงเน้นเสนอขายกลุ่มนักลงทุน II/HNW กลุ่มธุรกิจที่ออกตราสารหนี้ระยะสั้นสูงสุดคือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์(Finance & Securities) มียอดการออกเพิ่ม 46% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว

ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังเข้าลงทุนในตราสารหนี้ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/61 มีมูลค่าซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น 3.87 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาว 5.25 หมื่นล้านบาท และมีการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 1.39 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้มีมูลค่าการลงทุนสะสมสุทธิในตราสารหนี้ไทยทั้งสิ้น 8.7 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 7.4% ของมูลค่ารวมตลาดตราสารหนี้ไทย ในขณะเดียวกันเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีความชันมากขึ้น โดยรุ่นอายุไม่เกิน 5 ปี ปรับตัวลดลง 2-13 bps. ส่วนรุ่นอายุ 6-10 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 2-10 bps.

สำหรับทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในช่วงที่เหลือของปี 61 นี้ ค่อนข้างมั่นใจว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ใกล้เคียงกับดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะคงที่ที่ 1.5% จนถึงช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่เงินเฟ้อของไทยมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ในกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายในขณะที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอายุ 10 ปี มีทิศทางขาขึ้นในกรอบที่จำกัดตามภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ขยายตัวดีขึ้น ถึงกระนั้นก็ดีนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐในแต่ละช่วงเวลาอาจทำให้เกิดความผันผวนที่รุนแรงในผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ