นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ในช่วงวันที่ 17-18 เมษายน 2561 จะเกิดพายุฤดูร้อนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
กรมป้องกันฯ จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือและระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัย โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ช่วงตั้งแต่วันที่ 13-17 เมษายน 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 24 จังหวัด ครอบคลุม 65 อำเภอ 110 ตำบล 251 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,503 หลัง ผู้เสียชีวิต 2 ราย
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงมาตรการดูแลและช่วยเหลือประชาชนในช่วงพายุฤดูร้อนว่า ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่าจะมีพายุฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนเป็นต้นมา ในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน รวมถึงภาคกลางและภาคตะวันออกส่วนหนึ่ง ซึ่งทางกระทรวงได้ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่ และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีเหตุการณ์ก็พร้อมดำเนินการช่วยเหลือทันที