"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในทัศนะประชาชน" โดยเฉพาะประเด็นการแต่งตั้งนักการเมืองเข้ามาทำงานกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเมืองอย่างร้อนแรง โดยเมื่อถามว่า ประชาชนคิดอย่างไรกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเมืองอย่างร้อนแรงในขณะนี้ พบว่า 3 อันดับแรก ระบุว่า อันดับ 1 ประชาชน 50.42% ตอบว่าเป็นสิทธิของทุกคน สามารถแสดงความคิดเห็นได้ อันดับ 2 ประชาชน 33.89% ตอบว่าได้รับรู้ข้อมูล ได้รับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายแง่มุม และอันดับ 3 ประชาชน 29.69% ตอบว่าน่าเบื่อ เป็นเกมการเมือง ทะเลาะโจมตีกันไปมา นอกจากนี้ เมื่อถามว่าประชาชนคิดอย่างไรกับการตั้งนักการเมืองเข้ามาทำงานกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โดยแยกเป็น 3 กรณี คือ กรณีแรกแต่งตั้ง "นายสนธยา คุณปลื้ม" เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการเมือง พบว่า อันดับ 1 ประชาชนตอบว่ารัฐบาลต้องการดึงพรรคการเมืองเข้ามาร่วมทำงาน สร้างแนวร่วม อันดับ 2 ประชาชนตอบว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางการเมือง ขยายอำนาจ และอันดับ 3 ประชาชนตอบว่าต้องรอดูท่าที และผลงานว่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่สอง การแต่งตั้ง "นายอิทธิพล คุณปลื้ม" เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า อันดับ 1 ประชาชนตอบว่าไม่อยากให้มีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง อันดับ 2 ประชาชนตอบว่าเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ต้องการสร้างฐานเสียง และอันดับ 3 ประชาชนตอบว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ มีผลงาน ขอให้ตั้งใจทำงาน
กรณีที่สาม การแต่งตั้ง "นายสกลธี ภัททิยกุล" เป็นรองผู้ว่าราชการ กทม. พบว่า อันดับ 1 ประชาชนตอบว่าเป็นประเด็นที่ถูกจับตามอง มีความใกล้ชิดกับนายสุเทพ อันดับสอง ประชาชนตอบว่ารอพิสูจน์ผลงาน ควรทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และอันดับสาม ประชาชนตอบว่าเป็นเรื่องการเมือง อยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน
เมื่อถามว่าจากความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้น ประชาชนมองทิศทางการเมืองไทยกับการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร พบว่า อันดับ 1 ประชาชนตอบว่ามีพรรคการเมืองหลากหลาย น่าจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น อันดับ 2 ประชาชนตอบว่าอาจเกิดความเคลื่อนไหว ขัดแย้ง วุ่นวาย และอันดับ 3 ประชาชนตอบว่าอยากให้มีนักการเมืองที่เป็นคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่คนกลุ่มเดิม ๆ
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าสถานการณ์ในขณะนี้สมควรให้อิสระกับพรรคการเมือง (ปลดล็อค) แล้วหรือยัง อันดับ 1 ประชาชน 44.47% ตอบว่าควรปลดล็อคโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะเป็นประชาธิปไตย เกิดความเท่าเทียม พรรคการเมืองมีอิสระ ทำกิจกรรมได้ ช่วยให้สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น ประชาชนได้รับรู้ข้อมูล ได้เห็นท่าทีของแต่ละพรรค อันดับ 2 ประชาชน 36.45% ตอบว่าควรปลดล็อคแต่มีเงื่อนไข คือ มีกฎเกณฑ์ร่วมกัน ไม่สร้างความขัดแย้ง วุ่นวาย ต้องแสดงความโปร่งใส กำหนดขอบเขต บทลงโทษที่ชัดเจน และอันดับ 3 ประชาชน 19.08% ตอบว่าไม่ควรปลดล็อค เพราะอาจเกิดการเคลื่อนไหว ชุมนุม ประท้วง บ้านเมืองไม่สงบ วุ่นวาย รัฐบาลอาจควบคุมดูแลยาก
อนึ่ง ผลการสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,088 คน ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 18-21 เมษายน 2561