นายกฯ เปิดงานเสวนาบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ย้ำขับเคลื่อนกลไกผ่าน 3 ด้านหลัก

ข่าวทั่วไป Monday June 4, 2018 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในงานเสวนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่ทุกคนได้มารับฟังปัญหาและช่วยกันบูรณาการการแก้ปัญหาน้ำของประเทศ ให้เกิดการบูรณาการสร้างการมีส่วนร่วมและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

รัฐบาลขับเคลื่อนกลไกบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศผ่าน 3 ด้านหลัก เน้นทำความเข้าใจประชาชน จัดหาพื้นที่กักเก็บน้ำ พร้อมย้ำผู้เกี่ยวข้องต้องทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย ที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรับปรุงกลไกในการบริหารจัดการน้ำ โดยได้วางกลไกใหม่ในลักษณะ 3 เสาหลัก คือ ด้านกฎหมาย โดยเฉพาะการตราพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), ด้านองค์กรรับผิดชอบเรื่องน้ำในระดับนานาชาติ ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อกำกับการบริหารจัดการน้ำที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี และด้านแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค ยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย การจัดการคุณภาพน้ำ การจัดการป่าต้นน้ำและป่าเสื่อมโทรม และยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ ติดตามประเมินผลตามยุทธศาสตร์ทั้งหมด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารน้ำของประเทศ โดยปัจจุบันได้แก้ไขทั้งปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำบาดาล ส่วนเรื่องการสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในบางพื้นที่ก็ยังติดปัญหาและมีการคัดค้าน ดังนั้นต้องไปคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในอนาคตได้ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ ในการปฎิรูปประเทศ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้เกิดความชัดเจน ถึงภารกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่รัฐบาลทำงานไปพร้อมๆ กับการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งขณะนี้บ้านเราเปรียบเสมือนการเล่นฟุตบอลเป็นทีมที่ทุกคนถือเป็นโค้ชและผู้เล่น จึงต้องช่วยกันเล่นออกมาให้ดีที่สุดและทำประตูให้ได้ ขณะที่ประชาชนถือเป็นคนดูที่มีความหลากหลายทางความเห็น มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจการดำเนินการต่างๆ และบางกลุ่มตำหนิการทำงานของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ดังนั้นการแก้ไขปัญหาของประเทศจะสำเร็จได้ ทุกคนต้องเดินไปพร้อมๆกัน ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็เดินต่อไม่ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้กฎหมายให้เหมาะสม เช่นเดียวกับรัฐบาลและ คสช.ถึงแม้จะมีอำนาจตามมาตรา 44 ก็ต้องใช้อย่างเหมาะสมเช่นกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่พบประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ไม่ใช่การหาเสียง และไม่ใช่การใช้งบประมาณเพื่อหวังผลทางการเมือง เพราะงบประมาณที่ใช้ ไม่ใช่ของตนเองแต่เป็นของรัฐบาล ที่จะต้องใช้อย่างเหมาะสม จึงไม่อยากให้บางสื่อฯ วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้อย่างไม่ถูกต้อง รวมถึงเรื่องของการเลือกตั้ง ที่ยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามโรดแมพ

นายกรัฐมนตรี ย้ำถึงความแตกต่างของเรื่องสิทธิมนุษยชนและการบังคับใช้กฎหมายที่บางครั้งถูกแบ่งด้วยเส้นบางๆเท่านั้น ซึ่งยืนยันว่าทุกคนจะต้องยึดถือกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มใด เช่น นิสิตนักศึกษา หรือพระสงฆ์ก็ตาม

"ทุกคนในประเทศไทยต้องยึดถือกฎหมาย ไม่ว่าจะอาชีพไหน นิสิตนักศึกษา ต้องถือกฎหมาย จะพระก็ต้องกฎหมายทั้งหมด ไม่ใช่ตรงนี้ไม่ต้องแรง อันนี้แรงกว่า กฎหมายมีอันเดียว มาตรฐานเดียว เข้าใจกันซะบ้างกฎหมาย พอกฎหมายไหนไม่ชอบ ก็ไม่เป็นธรรม รังแก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ