นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้นายสันติ ป่าหวาย รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่โดยด่วน เพื่อดูแลและประเมินสถานการณ์ในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบเหตุเรือล่มที่เกาะเฮ และเกาะไม้ท่อน เมื่อวันที่ 5 ก.ค และเย็นวันนี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ มีกำหนดจะเดินทางลงพื้นที่เพื่อประชุมและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่อไป
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่ได้รับข้อมูลเบื้องต้น นักท่องเที่ยวจีนที่ประสบอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว FIT ที่ได้ซื้อแพคเกจทัวร์จาก OTA โดยมีนักท่องเที่ยวที่มาจากมณฑลเจียงซู เจ้อเจียง กวางตุ้ง เหลียวหนิง และ เหอหนาน เป็นต้น ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ได้อำนวยความสะดวกให้กับสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่อย่างเต็มความสามารถในการค้นหา และกู้ภัยผู้สูญหาย รวมถึงการให้การรักษาพยาบาล และปลอบขวัญผู้บาดเจ็บ ตลอดจนการดำเนินการต่างๆ หลังเหตุการณ์อย่างเต็มที่
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในส่วนของกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เบื้องต้นถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขของกองทุนฯ จะชดเชยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา ทุพพลภาพ รายละไม่เกิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลทางการแพทย์ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 500,000 บาท โดยจะเร่งให้มีการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาภายในวันที่ 9 ก.ค.61
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้รับค่าชดเชยจากประกันเรือ และประกันจากบริษัทนำเที่ยว ทั้งนี้ สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้เขต 2 ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเรือฟินิกซ์มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวในนามของบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด เลขที่ใบอนุญาต 34/01799 มีประกันอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวกับบริษัท กรุงเทพประกันภัย กรณีเสียชีวิต 1 ล้านบาท และรักษาพยาบาล 5 แสนบาท
นายพงษ์ภาณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตำรวจท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) ที่อยู่ในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงให้ความช่วยเหลือและประสานงานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ และเน้นย้ำให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและกรมการท่องเที่ยวตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวที่ละเมิดกฎจนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บและเสียชีวิตในครั้งนี้ เพื่อลงโทษตามกฎหมายต่อไป
ในส่วนของการอำนวยความสะดวกบริเวณสนามบินจังหวัดภูเก็ตนั้น ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เพื่อร่วมจัดรถอำนวยความสะดวกแก่ญาติของผู้ประสบเหตุ รวมถึงการจัดเตรียมมัคคุเทศก์ที่สามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยว ตลอดถึงประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่นักท่องเที่ยวและผู้เกี่ยวข้องอีกด้วย
พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำถึงความปลอดภัยว่าเป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยงานของกระทรวงฯ รวมถึงผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรก ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนหรือนักท่องเที่ยวต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว Call Center 1155 หรือศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC.) 02-134 - 4077 โดยจะมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลี และรัสเซีย เตรียมพร้อมรับสายและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง