กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบาดาล ระหว่างกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบาดาล รองรับภาวะวิกฤติ และความต้องการใช้น้ำบาดาลในกิจกรรมต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการร่วมวางแผน วิเคราะห์ ประเมินผล และติดตามผลการดำเนินงาน โดยนำเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการ ในระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องเกษตรกร ประชาชน และประเทศชาติต่อไป
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นหน่วยงานที่มีพันธกิจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดการกระจายตัวของฝนในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อการพัฒนาด้านการเกษตร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างบูรณาการ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เกิดปัญหาสภาวะฝนทิ้งช่วง และการกระจายตัวของฝนไม่ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมนอกเขตชลประทาน ทำให้พื้นที่การเกษตรหลายแห่งได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แนวทางในการบรรเทาสถานการณ์ดังกล่าว จำเป็นต้องมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการบริหารจัดการน้ำและบรรเทาภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำ ทั้งน้ำบนฟ้า น้ำผิวดิน และน้ำใต้ดิน ดังนั้น กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 เพื่อดำเนินงานด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ มุ่งเน้นความร่วมมือด้านวิชาการและวางแผนการปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเกิดมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับภาวะวิกฤติและภัยพิบัติได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบาดาลในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดการทำงานร่วมกันหลังจากมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์และขอบเขตความร่วมมือ ดังนี้
1. ร่วมกันกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่เหมาะสมในการเติมน้ำบาดาลลงสู่ใต้ดินตามธรรมชาติโดยการปฏิบัติการฝนหลวง 2. สร้างแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อร่วมวางแผน วิเคราะห์ ประเมินผล และติดตามผลการดำเนินงานภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบาดาล 3. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบาดาล รองรับภาวะวิกฤติ และความต้องการใช้น้ำบาดาลในกิจกรรมต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น
หลังจากนั้น รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมการดำเนินงานในพื้นที่ศักยภาพของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ณ บ้านหนองระกำ หมู่ 5 ตำบลเขาชายธง อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทาน ที่อยู่ในเขตเงาฝน เกษตรกรต้องประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอยู่เป็นประจำ โดยพื้นที่แห่งนี้สามารถเพาะปลูกอ้อยได้เพียงหนึ่งรอบต่อปี ผลผลิตต่อไร่ตกต่ำ รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินและการละทิ้งถิ่นฐานเพื่อหารายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว ภายหลังเข้าร่วมโครงการฯ ทำให้การปลูกอ้อยที่ได้รับน้ำบาดาลมาช่วยเสริมมีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ จากความร่วมมือดังกล่าว กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบาดาลในทุกพื้นที่ เพื่อรองรับภาวะวิกฤติและความต้องการใช้น้ำบาดาลในกิจกรรมต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้นต่อไป