กรมเจ้าท่า รายงานงานความคืบหน้าสถานการณ์เรือฟีนิกซ์ล่มที่จังหวัดภูเก็ต ฉบับที่ 18 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2561 การกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตรายสุดท้าย ที่ติดใต้ท้องเรือฟีนิกซ์ ชุดปฏิบัติการยังคงดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเดิม คือ ใช้ทีมประดาน้ำของกองทัพเรือไทยเป็นหลัก และมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย GUANGZHOU SALVAGE ของประเทศจีนร่วมปฏิบัติการในทุกขั้นตอน ในการปฏิบัติจะดำลงไปด้วยอุปกรณ์สคูบ้า และอุปกรณ์ดำน้ำลึกพิเศษ(SUR FACE ) แบบครอบเต็มศรีษะ โดยจะนำท่อดูดทรายดำลงไปเพื่อทำการดูดทราย บริเวณที่ร่างผู้สูญหายติดอยู่ออก ก่อนนำร่างผู้สูญหายออกมา โดยได้เริ่มปฏิบัติการแล้วเมื่อเวลา 09.00 น.
จังหวัดภูเก็ตประกาศปรับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง เป็นศูนย์ปฏิบัติการค้นหาส่วนหน้า มอบให้อยู่ภายใต้การกำกับของทัพเรือภาค 3 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับญาติผู้ประสบภัยว่า ประเทศไทยจะยังคงปฏิบัติการจนกว่าการพิสูจน์อัตลักษณ์ร่างที่อยู่ใต้ซากเรือฟีนิกซ์ จะดำเนินการสำเร็จลุล่วง สำหรับการดำเนินการส่งกลับร่างผู้เสียชีวิตและประสานงานอำนวยความสะดวกอื่นๆ ให้กับผู้ประสบภัยและญาติ จังหวัดภูเก็ตทำการเปิดศูนย์อำนวยการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ที่ศาลากลางจังหวัด โดยกำหนดให้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะติดตามในภาพรวมในทุกด้านทั้งการรักษาพยาบาลเยียวยาการจัดการศพ การส่งกลับ รวมทั้งการรับเรื่องร้องทุกข์กรณีที่ญาติยังมีข้อกังวล ตลอดจนการดูและประเมินผลการปฏิบัติการ
สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรับเพิ่มมาตรการความปลอดภัยการท่องเที่ยว โดยบูรณาการเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการขึ้นสู่เรือตามท่าต่างๆโดยเบื้องต้นได้พิจารณาจากเรือที่มีขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไป โดยจะดำเนินการในท่าเรือหลัก 4 ท่าเรือก่อน ได้แก่ ท่าเรืออ่าวฉลอง ท่าเรือรัษฎา ท่าเรือวิสิษฐ์พันวา และท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า สลับหมุนเวียนตรวจการณ์ในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
นอกจากนี้ในช่วงระหว่างวันที่ 13-15 กรกฎาคม 2561 กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศ เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจึงได้มีประกาศเตือนให้ระมัดระวังในการเดินเรือเนื่องจากคลื่นลมแรงในช่วงวันดังกล่าว โดยขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังเรือเล็กขนาดความยาวต่ำกว่า 9 เมตร บริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งและเรือที่จะเดินทางไปเกาะราชา, เกาะไม้ท่อน ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมทั้งให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดก่อนออกเรือทุกครั้ง