นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัดของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 7 อำเภอ 23 ตำบล 199 หมู่บ้าน ได้แก่ มุกดาหาร เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดงหลวง และอำเภอเมืองมุกดาหาร รวม 14 ตำบล 185 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,250 ครัวเรือน 11,050 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง อุบลราชธานี เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขมราฐ อำเภอโพธิ์ไทร และอำเภอโขงเจียม รวม 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนไดรับผลกระทบ 179 ครัวเรือน 689 คน อพยพ 15 ครัวเรือน 47 คน ปัจจุบันระดับน้ำ เพิ่มสูงขึ้น และตาก เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่สอด และอำเภอพบพระ รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสนับสนุนเรือท้องแบน เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
นอกจากนี้ จังหวัดสกลนคร ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างแดนดิน และอำเภอโพนนาแก้ว รวม 5 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 48 ครัวเรือน 134 คน นาข้าว 240 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร องค์การบริหารส่วนตำบล และองค์กรสาธารณกุศล เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน
สำหรับสถานการณ์ดินสไลด์ในพื้นที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง ผู้เสียชีวิต 8 ราย ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่านได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังเข้าปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วน ทั้งนี้ ได้อพยพประชาชนในพื้นที่ 60 ครัวเรือน 253 คน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนบ้านสว้า ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ พร้อมให้การดูแลในเบื้องต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป