พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมอันเนื่องมาจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่าบางจังหวัดมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย จึงได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านกระทรวงมหาดไทยให้บูรณาการทุกหน่วยงานในพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสำรวจความเสียหายเพื่อชดเชยเยียวยาประชาชนต่อไป
"นายกฯ ย้ำว่ารัฐบาลและกลไกทุกระดับของภาครัฐเฝ้าติดตามสภาพอากาศอยู่ตลอดเวลา เพราะช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงมรสุม ทำให้มีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ พร้อมทั้งพยายามแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้ทันท่วงที แต่หากเป็นเหตุที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ก็จะเร่งบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้โดยเร็วที่สุด
พร้อมทั้งยังได้ฝากเตือนประชาชนให้ติดตามข่าวสารภัยพิบัติอย่างระมัดระวัง โดยขอให้ติดตามข่าวจากทางราชการ ไม่หลงเชื่อข่าวลือที่ส่งต่อกันทางโซเชียลมีเดีย เพราะอาจเกิดความตื่นตระหนกได้ เช่นกรณีที่ระบุว่า จ.สกลนครเกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี เป็นต้น"
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับทราบข่าวเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะลอมบอก ประเทศอินโดนีเซียแล้ว โดยห่วงใยคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวและติดอยู่ที่ในพื้นที่ ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่า เอกอัครราชทูตไทย และผู้ช่วยทูตทหารทั้ง 3 เหล่าทัพได้เดินทางเข้าพื้นที่เกาะลอมบอก เพื่อร่วมประชุมกับทางการอินโดนีเซียแล้ว
ขณะนี้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือภาคเอกชนไทยที่ไปลงทุนในอินโดนีเซียได้พยายามให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มที่ โดยได้จัดหาอาหารและที่พักไว้จำนวนหนึ่งระหว่างรอการนำตัวออกนอกพื้นที่
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาย้ำว่า นักท่องเที่ยวไทยรวม 180 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาว ยังปลอดภัยดี และอยู่ในความดูแลของทหารไทยและมัคคุเทศก์ในพื้นที่ โดยสถานทูตไทยและสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเดนปาซาร์ (บาหลี) ได้ติดต่อกับกลุ่มคนไทยอยู่ตลอด พร้อมกับประสานงานกับทางการอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด เพื่อหาทางให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
"นายกฯ กำชับให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่ประสบภัยหรือใกล้เคียงติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลอินโดนีเซียอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย"