กรมป้องกันฯ ประสาน 41 จังหวัดรับมือภาวะฝนตกหนัก, เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคอีสาน 5 จังหวัด

ข่าวทั่วไป Wednesday August 1, 2018 10:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ได้ประสาน 41 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ให้เตรียมความพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง ทำให้มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามปริมาณน้ำฝน ระดับน้ำในลำน้ำ และพื้นที่ลาดเชิงเขาอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ จากการติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาหลายจังหวัดมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องกันหลายวัน กอปรกับแม่น้ำหลายสายเริ่มมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ปภ.จึงได้ประสาน 41 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ แยกเป็น

ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ ตาก กำแพงเพชร และพิจิตร

ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว ชลบุรี และระยอง

ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ

ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และภูเก็ต

รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฝ้าระวังและติดตามปริมาณน้ำฝนรายวัน ปริมาณน้ำฝนสะสม ระดับน้ำในลำน้ำ และพื้นที่ลาดเชิงเขาอย่างใกล้ชิด ส่วนพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ให้เฝ้าระวังอันตรายจาก คลื่นลมแรง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งอย่างเด็ดขาด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในระยะนี้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยหลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำไหลหลากใน 5 จังหวัด 22 อำเภอ 114 ตำบล 769 หมู่บ้าน ประกอบด้วย

นครพนม เกิดฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอปลาปาก อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอธาตุพนม อำเภอบ้านแพง และอำเภอนาแก รวม 56 ตำบล 398 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 9 หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 128,098 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น

มุกดาหาร เกิดฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดงหลวง อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอดอนตาล อำเภอหว้านใหญ่ และอำเภอหนองสูง ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,754 ครัวเรือน 15,534 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 28,582 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

อำนาจเจริญ เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำในลำน้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่อำเภอชานุมาน ตำบลโคกสาร พื้นที่การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 650 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

อุบลราชธานี เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขมราฐ อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอโขงเจียม อำเภอนาตาล และอำเภอศรีเมืองใหม่ ประชาชนได้รับผลกระทบ 590 ครัวเรือน 2,307 คน อพยพ 14 ครัวเรือน 52 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

สกลนคร เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างแดนดิน และอำเภอโพนนาแก้ว ประชาชนได้รับผลกระทบ 48 ครัวเรือน 134 คน ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กรมป้องกันฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่อง อุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ