พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ และการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมและการขนส่งสู่การเป็นศูนย์กลางอาเซียนตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้ร่วมพิจารณาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการสำคัญ โดยให้ความเห็นชอบโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และโครงการโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุข และทางพิเศษศรีรัชวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร
ที่ประชุมยังได้พิจารณาประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2 ฉบับ ที่ให้ความสำคัญกับกิจการหรือการดำเนินการใดที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย หรือส่วนได้ส่วนเสียสำคัญของประชาชน ชุมชน หรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งประกาศดังกล่าวจะช่วยปิดช่องว่างไม่ให้เกิดกิจการผิดกฎหมายที่กระทบกับสิ่งแวดล้อม หรือหากมีต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น โรงงานกำจัดหรือกิจการคัดแยกขยะทุกชนิด
พร้อมทั้งพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนการจัดการพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อต้องการให้ชุมชนเมืองมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายพื้นที่สีเขียวสาธารณะในภาพรวมของประเทศไม่น้อยกว่า 15 ตร.ม./คน ในเขตเมืองและชุมชน และในเมืองใหญ่ ต้องมีพื้นที่สีเขียวต่อการใช้ประโยชน์ที่ดินร้อยละ 15, เมืองขนาดกลางร้อยละ 20 และเมืองขนาดเล็ก ร้อยละ 25 ซึ่งจะช่วยพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนเมืองและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ขอให้นำเรื่องที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอต่อที่ประชุม ครม.และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ กำกับติดตาม และแก้ปัญหาเร่งด่วนกับขยะอิเล็คทรอนิกส์ ขยะมูลฝอย และของเสียอันตรายที่ยังกำจัดไม่หมดและมีตกค้างในชุมชน เช่น กากของเสียอุตสาหกรรม ขยะติดเชื้อจากสถานพยาบาล รวมทั้งขอให้เร่งรัดขับเคลื่อนการคัดแยกของเสียอันตรายจากชุมชนจากขยะทั่วไป โดยให้สร้างการตระหนักรู้ จิตสำนึกและหน้าที่ให้ทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันเรียนรู้และบริหารจัดการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม สู่ความยั่งยืนร่วมกัน