นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร ว่า ล่าสุด (3 ส.ค. ) เขื่อนน้ำอูน มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 525 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) (ปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 520 ล้าน ลบ.ม.) มีน้ำล้นทางระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (Service Spillway) ประมาณ 6 เซนติเมตร หรือคิดเป็นปริมาณน้ำล้น 1.22 ล้าน ลบ.ม./วัน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำอูน ได้เร่งระบายน้ำผ่านทางระบบชลประทาน พร้อมติดตั้งกาลักน้ำช่วยในการระบายน้ำ จำนวน 10 ชุด สามารถระบายน้ำได้รวมกันทั้งสิ้น 3.60 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในอ่างฯให้ลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ควบคุม
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล ดำเนินการติดตั้งกาลักน้ำเพิ่มเติมอีกจำนวน 15 ชุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำเป็น 600,000 ลบ.ม./วัน รวมทั้งสิ้นจะสามารถระบายน้ำได้ 4.15 ล้าน ลบ.ม./วัน ทำให้การควบคุมปริมาณน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้เร็วขึ้น
นายทองเปลว กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สิ้นสุดฤดูฝน จึงต้องเตรียมพื้นที่ไว้รองรับปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าอ่างฯมากขึ้นในระยะต่อไป ซึ่งการระบายน้ำออกจากอ่างฯ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ปริมาณน้ำที่ระบายทั้งหมดจะไหลลงสู่ลำน้ำอูน และลำน้ำสงคราม ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง บริเวณ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนมตามลำดับ
"ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชลประทาน ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำสงครามอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานจังหวัดเพื่อรายงานสถานการณ์น้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร บึงกาฬ นครพนม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว"