ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ เผยเตรียมยื่นหนังสือเรียกร้องให้ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม และนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีที่ปล่อยให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารของรถร่วมบริการบริษัท ขนส่ง จำกัด แต่กลับมีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมไปด้วย
"การขึ้นค่าโดยสารรถร่วมบริการบขส.ไม่เป็นไปตามมติที่อนุมัติให้ขึ้นค่าโดยสารกิโลเมตรละ 3 สตางค์ แต่ในทางปฏิบัติกลับขึ้นราคากิโลเมตรละ 6 สตางค์ และที่ผ่านมาทุกครั้งที่มีการอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารก็ปฏิบัติลักษณะเดียวกันนี้ ซึ่งประเมินว่ามีมูลค่าความเสียหายประมาณ 10,220 ล้านบาท" นายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ กล่าว
นายบุญชัย กล่าวว่า ต้องการเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง กรมการขนส่งทางบก ติดตามเงินที่สูญหายไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากผู้ประกอบการรถร่วมบริการ บขส.กลับคืนมาให้ประชาชน โดยอาจนำเงินที่ได้มาตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการเดินทางรถโดยสารสาธารณะ
นายบุญชัย ยืนยันว่า การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมไปพร้อมกับขึ้นค่าโดยสารไม่เป็นไปตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ซึ่งต้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติราชการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สำหรับมูลค่าความเสียหายที่คำนวณมานั้นใช้พื้นฐานที่ค่อนข้างต่ำ คือ คิดการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมกิโลเมตรละ 3 สตางค์ เป็นสัดส่วน 4% ของค่าโดยสาร โดยประเมินว่ารถโดยสารทั้งระบบมีจำนวนประมาณ 8,000 คันมีรายได้วันละ 100 ล้านบาท 4% ของรายได้ค่าโดยสาร อยู่ที่ 4 ล้านบาทต่อวัน นำมาคูณกับจำนวนวันหลังจากปรับค่าโดยสารครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 เม.ย.48 ซึ่งเป็นเวลา 2,536 วัน ทำให้ได้ตัวเลขประเมินในเบื้องต้นที่ 10,220 ล้านบาท
นายบุญชัย กล่าวว่า ภายใน 1-2 วันนี้ เครือข่ายการคัดค้านฯ เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอให้ระงับการปรับขึ้นค่าเรือโดยสารในวันที่ 1 ม.ค.51 เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--