พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในงาน "MEET the PRESS Reform Together สร้างไทยไปด้วยกัน"ว่า ภาครัฐมีความพยายามออกกฎหมายเพื่อปกป้องรักษาป่าไม้ สัตว์ป่า และอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีว่าจะต้องมีพื้นที่ป่าไม้และต้นไม้ไม่น้อยกว่า 55% ในปี 80 จากปัจจุบันมีพื้นที่ป่าไม้ทั้งหมด 32% เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทยทุกคน ซึ่งขณะนี้ยังพบปัญหาเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งการลักลอบค้าสัตว์ป่า และการตัดไม้ทำลายป่า หรือบางครั้งนำไปสู่ความขัดแย้งจนกลายเป็นปัญหาทางการเมือง
พล.อ.สุรศักดิ์ ระบุว่า กระทรวงฯ ได้กำหนดแผนปฏิบัติการและจัดทำใน 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1.การจัดการป่าไม้เพื่อการอนุรักษ์ 2.การจัดการป่าไม้เพื่อการสนับสนุนพัฒนาประเทศ 3.การจัดการป่าไม้เพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ 4.การจัดการป่าไม้เพื่อการปฏิรูปบริหารจัดการป่าเพื่อความยั่งยืน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติรวมถึงสัตว์ป่าด้วย
สำหรับการจัดการป่าไม้เพื่อการอนุรักษ์ ได้มีการจัดทำแผนป้องกันพื้นที่ป่าอย่างเข้มข้น ทั้งการจัดหน่วยลาดตระเวนเพื่อพิทักษ์ป่า พื้นที่ 102 ไร่ และการป้องกันการเกิดไฟป่า ซึ่งในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในทุกพื้นที่ และจิตอาสาในการแจ้งการเกิดไฟป่าส่งผลให้การเกิดไฟป่าน้อยลดลงมาก โดยสามารถโทรมาแจ้งได้ที่สายด่วน 1362
สำหรับการจัดการป่าไม้เพื่อการสนับสนุนพัฒนาประเทศ เน้นการสร้างอ่างเก็บน้ำ และสิ่งสำคัญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายในเรื่องการขอใช้พื้นที่ป่าของทางราชการต้องใช้ให้น้อยที่สุด และการก่อสร้างต้องมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ
ส่วนการจัดการป่าไม้เพื่อเศรษฐกิจและสังคม เน้นการดำเนินที่ให้คนอยู่กับป่าได้ โดยรัฐบาลมีโครงการจัดสรรที่ดินแปลงรวม ทำให้ในพื้นที่เดียวกันสามารถบริหารจัดการให้สามารถทำมาหากินได้ด้วย โดยให้ประชาชนมีการรวมกลุ่มและมีการวางกติการ่วมกัน โครงการป่าชุมชน เป็นการฝากให้ประชาชนดูแลพื้นที่ป่า เสมือนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และได้รับประโยชน์จากป่าตามวิธีการที่ตกลงกัน
และโครงการสำคัญ คือ การส่งเสริมปลูกไม้มีค่า ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแก้ไข พ.ร.บ.ป่าไม้แห่งชาติ มาตรา 7 ให้ไม้หวงห้ามสามารถตัด โค่น เลื่อย ผ่า ขุดได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ แต่ต้องเป็นป่าไม้ในพื้นที่กรรมสิทธิ์ที่ดินที่มีโฉนดที่ดินเท่านั้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนปลูกป่าไม้เศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมคนดีให้ตัดไม้มีค่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่ากฎหมายป่าไม้ฉบับใหม่ จะมีส่วนช่วยสร้างแรงจูงใจให้เศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะต้นไม้มีค่า จะมีมูลค่ามากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ และขณะนี้ได้เตรียมโครงการสวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย ซึ่งจากการสำรวจพบว่าปัจจุบันมีกว่า 111 แห่ง และเปิดไปแล้ว 60 กว่าแห่งทั่วประเทศ โดยเร็วๆ นี้เตรียมเปิดที่ จ.ระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลนให้ประชาชนได้เป็นแหล่งพักผ่อนและเพื่อการเรียนรู้ธรรมชาติได้ เพื่อให้ในอนาคตต่อไปจะเป็นป่ากลางเมือง กลายเป็นมรดกส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปได้ใช้ประโยชน์
สำหรับแนวทางการปฎิรูปป่าไม้ ได้มีการนำเรื่องของเทคโนโลยียุคดิจิทัล เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาให้มีความทันสมัยกว่าเดิม เช่น การลงทะเบียนไม้มีค่า ซึ่งประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาถึงหน่วยงาน แต่สามารถดำเนินการผ่านทางระบบออนไลน์ได้แล้ว เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการเร่งปรับปรุงร่างกฎหมายต่างๆ อีกกว่า 10 ฉบับ เช่น พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของการดำเนินการทุกอย่างอยู่ที่ความร่วมมือของภาครัฐและภาคประชาชนด้วย
"ถ้าเราทำได้ครบก่อนปี 2580 เป้าหมายทะลุเราทะลุแน่นอน แต่เชื่อว่าคนปลูกป่า ปลูกต้นไม้มากขึ้น ทั้งป่าอนุรักษ์และป่ามีค่า" พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว