พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงาน เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวัง แจ้งเตือน วางแผน และปฏิบัติการตามแผน เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมจากปริมาณฝนที่ตกหนักในระยะนี้
"นายกฯ พอใจการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมปีนี้ ที่มีความชัดเจนในทางปฏิบัติมากขึ้น หลังจากที่ได้ตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติขึ้นมาบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดการประสานและทำงานกันอย่างใกล้ชิด ทั้งการเตรียมการล่วงหน้าก่อนเข้าฤดูฝนและการจัดทำแผนรับมือแจ้งเตือนพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงการตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต เพื่อติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ" พล.ท.สรรเสริญกล่าว
พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่า ขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้เร่งระบายน้ำ 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนน้ำอูน และเขื่อนแก่งกระจานให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนบริเวณพื้นที่ท้ายน้ำ ส่วนเขื่อนใหญ่อื่นยังมีระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง
นอกจากนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ตั้งแต่จ. อุบลราชธานี นครพนม มุกดาหาร เริ่มลดลงตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแม่น้ำเพชรบุรีที่ระดับน้ำลดลง เนื่องจากมีการตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทานมากขึ้น ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ไปตรวจพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
"นายกฯ เป็นห่วงพื้นที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม ใน 8 จังหวัด คือ จ. สกลนคร มุกดาหาร ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี ตามประกาศของทางราชการ โดยสั่งการให้หน่วยงานกลางและพื้นที่จัดทำแผนป้องกันและแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องด้วย" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ