นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า แม้ในขณะนี้ประเทศไทยมีฝนตกกระจายตัวและตกหนักในหลายพื้นที่ และมีบางพื้นที่ประสบเหตุน้ำท่วมนั้น แต่ยังมีพื้นที่บางส่วนของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรอาศัยน้ำฝนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่กำลังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำเพื่อทำการเพาะปลูกเนื่องจากประสบภาวะฝนทิ้งช่วง โดยระหว่างวันที่ 16 – 19 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมีเกษตรกรและอาสาสมัครฝนหลวง จำนวน 41 ราย ขอรับบริการฝนหลวงให้กับพื้นที่การเกษตรบางส่วน ในจำนวน 46 อำเภอ 13 จังหวัด จึงได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา ลพบุรี และกาญจนบุรี ขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรตามที่มีการร้องขอฝน ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยและตกเล็กน้อยถึงปานกลางในหลายพื้นที่ของ จ.ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี ศรีสะเกษ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และสุรินทร์ รวมพื้นที่ดำเนินการได้ทั้งสิ้น 40 อำเภอ และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการช่วยเหลืออีกจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองตาก จ.ตาก อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ อ.ตาคลีและไพศาลี จ.นครสวรรค์ และ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ได้ดำเนินการช่วยเหลือไปแล้วนั้น ยังมีพื้นที่การเกษตรอีก 30 อำเภอ ที่ต้องการฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ในการเพาะปลูกและการเจริญเติบโตของพืชผลต่อไป จึงขอให้เกษตรกรและประชาชน มั่นใจว่ากรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ร้องขออย่างทั่วถึง