นายกฯ สั่ง รฟม.เร่งแก้ไขข้อติดขัดเวนคืนที่ดินเอกชนสร้างรถไฟฟ้าแนะใช้วิธีแบ่งปันผลประโยชน์

ข่าวทั่วไป Monday August 27, 2018 12:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หาแนวทางแก้ปัญหาข้อติดขัดเกี่ยวกับการเวนคืนที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินของเอกชน ซึ่งนอกจากวิธีการจ่ายค่าเวนคืนที่ดินเพียงอย่างเดียวสามารถหาวิธีการอื่น เช่น แบ่งปันผลประโยชน์ได้หรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการทำพิธีกดปุ่มเทคอนกรีตลงสู่ฐานรากเป็นสัญลักษณ์เริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล หรือ ระบบรางเดี่ยว 2 สายแรกของประเทศไทย คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง หลังจาก รฟม.ส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับสัมปทานเข้าไปดำเนินโครงการก่อสร้าง

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เมื่อเริ่มก่อสร้างก็ต้องเกิดปัญหาการจราจรติดขัด แต่ถือเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรในระยะยาว จึงฝากถึงประชาชนว่าโครงการระบบขนส่งมวลชน เป็นการแก้ปัญหาภาพรวมของประเทศ ซึ่งที่สุดแล้วประชาชนทุกคนก็จะได้ประโยชน์

ขณะเดียวกันฝากให้ภาคเอกชนที่ดำเนินการก่อสร้างวางแนวป้องกันและอุปกรณ์ให้เหมาะสม ใช้พื้นที่น้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร รวมทั้งต้องดูแลแรงงานโดยกำหนดเวลาทำงานและระยะสิ้นสุดโครงการที่ชัดเจน ที่สำคัญการก่อสร้างได้มาตรฐาน แข็งแรง รวดเร็ว และกำหนดค่าบริการที่เหมาะสม ให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้

"ทุกอย่างจะต้องอาศัยความร่วมมือของรัฐ เอกชน และประชาชน เพราะหากไม่ได้รับความร่วมมือจะทำให้เกิดความขัดแย้งไม่จบสิ้น ดังนั้นต้องขอให้ร่วมกันทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองด้วย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในส่วนของรัฐบาลยืนยันว่า จะดูแลไม่ให้เกิดการทุจริต ให้ทุกอย่างมีความโปร่งใส และทุกโครงการได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน ที่สำคัญต้องเป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง นอกจากนี้โครงการรถไฟโมโนเรลทั้ง 2 สายนี้ จะต้องเป็นตัวอย่างของโครงการอื่นๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

"โครงการนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาการจราจรที่เป็นปัญหาสำคัญใน กทม.และปริมณฑล ด้วยการเชื่อมระบบขนส่งมวลชน ทั้งทางรถ รถไฟ และเรือ เข้าด้วยกัน ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลในการลดปัญหาจราจร ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจว่ารัฐบาลไม่มีงบประมาณเพียงพอในการลงทุนก่อสร้างในทุกโครงการ ดังนั้น ความร่วมมือในลักษณะการลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชน (PPP Fast Track) จึงเป็นแนวทางที่จะทำให้ทุกโครงการเริ่มก่อสร้างได้รวดเร็ว ทันต่อการพัฒนา ซึ่งมีระเบียบและกติกาและกฎหมายที่ชัดเจน และยืนยันว่าไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใด เพราะเอกชนทั้งหมดสามารถเข้าร่วมมือกับรัฐได้ หากทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง" นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้ดูแลประชาชนทุกเรื่องอย่างดีที่สุด ดังนั้นการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานต่างๆของรัฐบาลก็ขอให้ระมัดระวัง ทั้งจากสื่อหลักและสื่อโซเชียล เพราะไม่มีใครทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันก็คาดหวังให้รัฐบาลชุดต่อไปทำให้ดีขึ้นอย่าเป็นเหมือนที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ