พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ซึ่งจะช่วยลดจำนวนคดีที่จะนำขึ้นสู่ศาลให้น้อยลง
"เนื่องจากปัจจุบันมิได้กำหนดเรื่องระบบการไกล่เกลี่ยเอาไว้ ทำให้มีเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลค่อนข้างเยอะ และกว่าจะตัดสินก็ใช้เวลานานพอสมควร ทำให้คู่กรณีเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ก่อนยื่นฟ้องคดีแพ่ง ผู้ที่จะเป็นคู่ความสามารถยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้แต่งตั้งผู้ประนีประนอมยอมความทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ก่อนที่ข้อพิพาทดังกล่าวจะเป็นคดีขึ้นสู่ศาล และหากตกลงกันได้ก็อาจขอให้ศาลมีคำพิพากษาตามยอมได้ทันที
"คู่ความสามารถนำสัญญาประนีประนอมยอมความยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำพากษาได้ เผื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจจะไม่เห็นด้วย อาจจะอยู่ในสภาพจำใจ ถ้าศาลดูแล้วเห็นว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความที่ชอบด้วยกฎหมายก็จะมีอำนาจในการพิพากษาให้เป็นไปตามสัญญานั้น แต่หากดูแล้วเห็นว่าน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการเอารัดเอาเปรียบ ศาลอาจจะไต่สวนปฏิเสธการพิพากษาตามสัญญานั้นได้" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ซ้ำซ้อนกับ พ.ร.บ.ไกลเกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนที่ผ่าน ครม.ไปก่อนหน้านี้เป็นกรณีหมายกลาง แต่กรณีนี้เป็นอำนาจของศาล ซึ่ง ครม.เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อคู่ความ และลดจำนวนคดีที่จะนำขึ้นสู่ศาล