พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ผู้ประสานงาน เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ รวมตัวหน้ากระทรวงพลังงาน เพื่อคัดค้านการเปิดประมูลแหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ พร้อมออกแถลงการณ์จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี พรรคการเมืองทุกพรรค องค์กรภาคเอกชนทุกองค์กร เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งเอกชนผู้ร่วมประมูล โดยเชิญชวนตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ ร่วมมือแก้จัดการพลังงานปิโตรเลียมให้เป็นธรรมกับประชาชน
ทั้งนี้ เครือข่ายฯ ได้ขอให้รัฐบาลชะลอการจัดสรรปิโตรเลียมแหล่งบงกชและเอราวัณออกไปก่อน โดยให้ตั้งกรรมการร่วม 3 ฝ่าย คือ ภาครัฐ ภาคประชาชน และ คนกลาง เพื่อแก้ไข TOR เพื่อปรับเงื่อนไขให้เป็นระบบจ้างบริการ (จ้างผลิต) ที่รัฐต้องได้ส่วนแบ่งมากกว่าเอกชน แทนระบบแบ่งปันผลผลิต รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างราคาพลังงานที่เป็นธรรมให้เสร็จภายใน 3 เดือน
เครือข่ายฯ ระบุว่า เอกชนที่เข้าร่วมประมูลและเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ออกกฎหมาย หากเดินหน้าจัดสรรปิโตรเลียมในระบบแบ่งปันการผลิตที่รับได้ต่ำกว่าเอกชน อาจจะเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาตอ่หน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4,9,10,11 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151, 157 เช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 9.00 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมราวสิบรายมาชุมนุมที่บริเวณใต้ตึก ENCO B ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงพลังงาน เพื่อคัดค้านการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมบงกชและเอราวัณในทะเลอ่าวไทย ที่กระทรวงพลังงานได้เปิดให้ผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นมายื่นเอกสารเพื่อเข้าร่วมประมูลในวันนี้ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น.
ขณะที่มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้ตรึงกำลังเพื่อดูแลความปลอดภัย โดยล่าสุดยังไม่มีผู้ประกอบรายใดเดินทางมายื่นเอกสารประมูลแหล่งปิโตรเลียม
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการผ่านคุณสมบัติและคาดว่าจะมายื่นเอกสารเพื่อขอเป็นผู้ดำเนินการ (operator) แหล่งปิโตรเลียมบงกชและเอราวัณ ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 65-66 ได้แก่ กลุ่มบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ,กลุ่มบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ,กลุ่มบริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกลุ่มโททาลจากฝรั่งเศส