นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงฯ ได้ปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่มีการร้องขอ โดยเมื่อวันที่ 13-15 ตุลาคมที่ผ่านมาสามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรปลูกไร่ข้าวโพดจำนวน 3,000 ไร่ ของตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพื้นที่นี้อยู่ในเขตของพื้นที่อับฝน และมีความต้องการฝนเพื่อการเจริญเติบโตในระยะติดดอก-ออกฝักของข้าวโพด โดยทำให้มีฝนตกในบริเวณดังกล่าวมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อความต้องการและเกษตรกรมีความพึงพอใจ
นอกจากนี้ ยังทำให้มีฝนตกในหลายพื้นที่การเกษตรของจังหวัดเพชรบูรณ์ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และสระแก้ว รวมทั้งช่วยเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำปลายมาศ เขื่อนลำแชะ เขื่อนลำมูลบน เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำลาด อ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง อ่างเก็บน้ำกระเสียว และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วอีกด้วย
อีกทั้งยังปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำจากภาวะฝนทิ้งช่วง ทั้งในบริเวณลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศ และพื้นที่การเกษตรตามที่เกษตรกรและอาสาสมัครฝนหลวงร้องขอเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2561 กรมฝนหลวงฯ สามารถปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ตามเป้าหมาย
โดยอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ จำนวน 7.232 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากแผนคาดการณ์จำนวน 4 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9.480 ล้าน ลบ.ม. จากแผนคาดการณ์ จำนวน 5 ล้าน ลบ.ม. สำหรับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนอื่นๆ ที่ยังมีความต้องการและมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน/อ่างเก็บน้ำ ใกล้เคียงตามแผนการคาดการณ์ กรมฝนหลวงฯ จะเร่งปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2561 เพื่อช่วยให้มีปริมาณน้ำเก็บกักให้มากที่สุดในการรองรับฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง