นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 7 - 11 พฤศจิกายน 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และเพชรบุรี รวม 13 อำเภอ 80 ตำบล 603 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,674 ครัวเรือน 46,315 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 1 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด รวม 11 อำเภอ 78 ตำบล 601 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,674 ครัวเรือน 46,315 คน ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางสะพานน้อย อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก และอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ รวม 18 ตำบล 129 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,500 ครัวเรือน 10,000 คน เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
ชุมพร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปะทิว อำเภอสวี อำเภอเมืองชุมพร อำเภอหลังสวน อำเภอทุ่งตะโก อำเภอท่าแซะ และอำเภอละแม รวม 60 ตำบล 472 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,174 ครัวเรือน 36,315 คน เสียชีวิต 2 ราย โรงเรียน 65 แห่ง ถนน 690 สาย สะพาน 56 แห่ง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบ 4,235 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมทั้งได้กำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป