นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปสนช.เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ได้รับหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งปลดล็อคให้นำกัญชาไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ตามที่สมาชิก สนช.ได้ร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษไปก่อนหน้านี้ โดยตามกำหนดเดิมวิป สนช.จะเสนอให้ประธาน สนช.บรรจุระเบียบวาระเพื่อพิจารณาวาระ 1 ในวันที่ 16 พ.ย. แต่มีเหตุขัดข้องทำให้ต้องเลื่อนวาระดังกล่าวออกไปก่อน
สำหรับสาเหตุที่ต้องเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ นายสมชาย กล่าวว่า เนื่องจากวิป สนช.ได้ทราบถึงข้อห่วงใยในกรณีที่มีบริษัทต่างชาติดำเนินการมาขอจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการนำกัญชาไปในทางการแพทย์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้ที่ประชุมวิปสนช.มีความเห็นว่าจำเป็นต้องเชิญอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญามาชี้แจงต่อวิป สนช.ในวันที่ 20 พ.ย.ก่อนที่ สนช.จะบรรจุร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม สนช.ต่อไป
นายสมชาย กล่าวว่า เท่าที่ สนช.ส่วนใหญ่ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว มีความเห็นว่าปัจจุบันกัญชายังเป็นยาเสพติดต้องห้ามตามกฎหมาย จึงไม่สามารถเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่จะได้รับการคุ้มครองทางสิทธิบัตรตามกฎหมายได้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 9 (5) ของพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ที่กำหนดว่าการประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี อนามัย หรือสวัสดิภาพของประชาชน จะไม่ได้รับการคุ้มครองตามพ.ร.บ. ดังนั้นกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะต้องไม่รับการจดสิทธิบัตรดังกล่าวเอาไว้ และจำเป็นต้องเพิกถอนคำร้องขอยื่นจดสิทธิบัตรทันที
นายสมชาย กล่าวว่า สนช.เป็นห่วงว่าหากไม่ดำเนินการเพิกถอนการขอจดสิทธิบัตรออกไปก่อน เกรงว่าหากต่อไปเมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านสนช. และมีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้ต่างชาติได้รับรองการจดสิทธิบัตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการที่หน่วยงานภาครัฐหรือมหาวิทยาลัยจะทำการวิจัยค้นคว้าทางการแพทย์ เนื่องจากต้องไปขออนุญาตจากเจ้าของสิทธิบัตรที่เป็นต่างชาติก่อน