นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.เผยผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2561 ว่า ป.ป.ช.รับงานใหม่ด้านปราบปรามการทุจริต จำนวน 4,622 เรื่อง สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ 3,642 เรื่อง โดยมีผลงานชี้มูลอาญา/วินัย/เป็นเหตุให้ถูกถอดถอนแล้วแต่กรณี
ส่วนผลงานด้านการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ได้ดำเนินงานด้านการตรวจสอบบัญชีเสร็จ จำนวน 8,941 บัญชี ณ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 แยกเป็น ตรวจสอบปกติ 8,555 บัญชี ตรวจสอบยืนยันข้อมูล 279 บัญชี และตรวจสอบเชิงลึก 107 บัญชี โดยป.ป.ช. ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาวินิจฉัยชี้มูลความผิดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองร่ำรวยผิดปกติ 3 ราย ให้ริบทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 1,047,945,343.15 บาท คือ นายสมบัติ อุทัยสาง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย และที่ปรึกษา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ และเลขานุการ รมว.พาณิชย์ และ นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.
ส่วนคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำวินิจฉัยกรณีจงใจไม่ยื่นบัญชี/จงใจยื่นเท็จ/ปกปิดบัญชี ที่สำคัญ อาทิ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม ศาลพิพากษาห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปี จำคุก 10 เดือน
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ศาลพิพากษาห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปี จำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ศาลพิพากษาห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จำคุก 1 เดือน เป็นต้น