รัฐบาลปล่อยกู้กัมพูชา 1.4 พัน ลบ.พัฒนาถนนเชื่อมแหล่งท่องเที่ยว

ข่าวทั่วไป Thursday January 10, 2008 18:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          คณะกรรมการพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเห็นชอบในหลักการโครงการให้ความช่วยเหลือเงินกู้ผ่อนปรนแก่รัฐบาลกัมพูชาวงเงิน 1,400 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเส้นทางมาตรฐานระยะทาง 113 กิโลเมตร หมายเลข 68 จากช่องจอม จ.สุรินทร์ ถึงเมืองกลอรันห์ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สามารถพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างเมืองเสียมเรียบกับภาคอีสานตอนใต้ของประเทศไทย รวมทั้งยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ชายแดนสองประเทศ
นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) กล่าวว่า ที่ประชุมมอบหมายกระทรวงการคลังพิจารณาวงเงินให้กู้จำนวนดังกล่าว โดยพิจารณารายละเอียดเงื่อนไขของการกู้ และวิธีการให้เงินกู้ และนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.เพื่อขออนุมัติต่อไป
แม้ที่ประชุมจะไม่ได้ยกเรื่องคอนแทรคฟาร์มมิ่งมาหารือแต่ก็มองไปถึงการพัฒนาพื้นที่กว่า 5.8 หมื่นเฮกเตอร์(3.6 ล้านไร่) บริเวณพื้นที่ที่ถนนสาย 68 นี้ตัดผ่าน โดยเฉพาะมองไปถึงการใช้เป็นพื้นที่ปลูกพืชชนิดต่างๆ เช่น พืชพลังงานทดแทน อย่างมันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์ม ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้เห็นว่าควรจะเข้าไปพัฒนาภาคเอกชนในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมด้วย
ด้านนายธนิต โสรัตน์ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องพิจารณาถึงค่าเช่าที่ดินในประเทศกัมพูชาจำนวน 5.8 หมื่นเฮกเตอร์ บริเวณเส้นทางสาย 68 โดยเน้นไปที่การปลูกพืชพลังงานทดแทนเป็นหลัก นอกจากนี้รัฐบาลยังจะต้องพิจารณาการสร้างถนนสายอื่น ๆ เข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพื่อเป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้กับประเทศ ซึ่ง ส.อ.ท.เสนอให้ก่อสร้างถนนในเส้นทาง อาร์ 3 ในเขต อ.เชียงของ จ.เชียงราย ไปยังเมืองบ่อแก้ว ประเทศลาว เพื่อเชื่อมต่อไปยังประเทศจีน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือพัฒนาเส้นทางหมายเลข 11 ในประเทศลาว ระหว่างนครเวียงจันทน์ถึงสามแยกสีไค-น้ำสัง-เมืองสังทอง แขวงเวียงจันทน์ ระยะทาง 92 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างประมาณ 636 ล้านบาท โดยให้สภาพัฒน์ กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสำรวจ ขณะเดียวกันได้เตรียมการประชุมสุดยอดผู้นำ GMS ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 30-31 มี.ค.51 ณ กรุงเวียงจันทน์ โดยกำหนดจะมีการลง MOU แนบท้ายความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดน จำนวน 20 ฉบับ โดยคาดว่าจะดำเนินการในรัฐบาลชุดหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ