แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) เปิดเผยว่า นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สศช. เตรียมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อขอทราบปัจจัยที่ทำให้เกิดความผันผวนของเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องเพื่อมาประเมินว่าต้องปรับ GDP ปี 51 ใหม่หรือไม่จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ไว้ 4-5%
โดยเบื้องต้นคาดว่าปัจจัยหลักมาจาก 3 กรณี คือ เงินดอลลาร์อ่อนค่า, เงินทุนต่างประเทศไหลเข้าไทยเพื่อเตรียมลงทุนหลังจากที่มีรัฐบาลชุดใหม่ และผู้ส่งออกไทยขายเทเงินดอลลาร์จำนวนมาก
"เรื่องที่ สศช. ต้องวิเคราะห์คือตลาดหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติเทขายอย่างหนัก ซึ่งความหลักการแล้วต้องนำเงินออกไปและทำให้ค่าเงินบาทไทยอ่อนตัว แต่ที่น่าแปลกคือค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นต่างชาติคงเก็บเงินไว้เพื่อรอการลงทุนครั้งใหม่" แหล่งข่าว ระบุ
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ สศช. และคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจส่วนรวมเป็นห่วงคือ ความผันผวนของราคาน้ำมัน, อัตราแลกเปลี่ยน, ความไม่แน่นอนจากการเมือง และเศรษฐกิจของโลก ซึ่งหากมีความผันผวนมากจะกระทบดัชนีต่างๆ ที่ประเมินไว้ในปี 51 เช่น การลงทุนรวมคาดว่าขยายตัว 5.8%, การบริโภครวม 4.5%, การส่งออก 163.9 พันล้านเหรียญฯ ขยายตัว 10%, นำเข้ามูลค่า 155.9 พันล้านเหรียญฯ ขยายตัว 12.5%, เกินดุลการค้า 7.3 พันล้านเหรียญฯ, ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 9.3 พันล้านเหรียญฯ, เงินเฟ้อ 3- 3.5% และอัตราการว่างงาน 1.5%
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--