นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวถึงกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือนการเกิดพายุโซนร้อน "ปาบึก" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ด้านอ่าวไทยอาจมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 เมตรนั้น ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานในสังกัด ได้แก่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี, ท่าอากาศยานชุมพร, ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช, ท่าอากาศยานระนอง, ท่าอากาศยานกระบี่, ท่าอากาศยานตรัง และท่าอากาศยานนราธิวาส เตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์พายุใต้ฝุ่นที่จะพัดเข้าประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 3 - 6 มกราคม 2562 โดยเบื้องต้นได้เตรียมมาตรการ รองรับดังนี้
1.กรมท่าอากาศยาน ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิการกลาง กรมท่าอากาศยาน เพื่อติดตามสถานการณ์พายุปาบึก ณ กรมท่าอากาศยาน
2.ท่าอากาศยานทางภาคใต้ ติดตามข่าวอากาศและรายงานให้ส่วนกลางทราบเป็นระยะ
3.หากมีผลกระทบต่อเที่ยวบินที่จะทำการขึ้นลง จะหารือกับสายการบินนั้นๆ เพื่อปรับเที่ยวบินหรือยกเลิกตามความเหมาะสม
4.ประสานงานกับพื้นที่ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น รถยกสูง หรือเรือลำเลียง พร้อมที่จะลำเลียงออกนอกพื้นที่
5.กรณีที่ไม่สามารถออกนอกพื้นที่ได้ จะปรับพื้นที่อาคารให้เป็นที่รองรับเพื่อพักอาศัยชั่วคราว โดยประสานกับจังหวัดเพื่อเตรียมเสบียงรองรับ
6.ประสานงานกับป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อพร้อมที่จะช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
7.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานระนอง ท่าอากาศยานตรัง ท่าอากาศยานชุมพร และท่าอากาศยานนราธิวาส ได้ออกประกาศขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการท่าอากาศยาน "ห้ามจอดรถค้างคืน" บริเวณลานจอดรถ เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน
8.ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน เคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากลานจอด และห้ามจอดรถในทุกกรณี เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน
อย่างไรก็ดี อธิบดีกรมท่าอากาศยาน ได้มอบหมายให้นายจรุณ มีสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด