นายอดิศักดิ์ ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการโครงข่าย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กล่าวว่า กลุ่มทรูในฐานะผู้ประกอบการด้านสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งเป็นบริการสาธารณูปโภคที่จำเป็นต้องพร้อมบริการลูกค้าให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะสถานการณ์วาตภัยจากพายุโซนร้อน ‘ปาบึก’ ที่มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังในเขตจังหวัดภาคใต้และภาคกลาง ระหว่างวันที่ 3 - 7มกราคมนี้ โดยทีมเน็ตเวิร์คกลุ่มทรูได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ 16 จังหวัดเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแบบเรียลไทม์ พร้อมวางมาตรการป้องกันสถานีชุมสาย เตรียมระบบไฟฟ้า และน้ำมันสำรองไว้เป็นจำนวนมากให้เพียงพอต่อสถานีฐานสำหรับใช้กรณีเกิดไฟฟ้าดับ เพื่อให้สามารถดำเนินการให้บริการได้อย่างต่อเนื่องทันที รวมทั้งประสานทุกภาคทั่วประเทศให้จัดส่งรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็วลงประจำทั้ง 16 จังหวัดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินกรณีไซต์ล่ม
โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน ปาบึก อาทิ บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอปากพนัง นครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง และ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อีกทั้งยังได้เพิ่มทีมวิศวกรเฝ้าระวังในพื้นที่ใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งชุมสายระดับพื้นที่ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับภูมิภาค ขณะเดียวกัน ยังได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทีม True Recovery and Rescue team จัดเตรียมชูชีพ รองเท้าบูท ชุดตรวจสอบไฟรั่ว รถยกสูง เรือท้องแบน เพื่อให้การดำเนินการของทีมงานเป็นไปอย่างปลอดภัยสามารถดูแลเครือข่ายเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ 1242 เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีการประสานงานและรายงานการให้บริการต่อ กสทช. ตามที่ กสทช.ขอความร่วมมือด้วย