กรมท่าอากาศยาน กำชับทุกสนามบินหลังเปิดให้บริการปกติ ต้องติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากพายุปาบึกใกล้ชิด

ข่าวทั่วไป Saturday January 5, 2019 16:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน พร้อมด้วยนายสมเกียรติ มณีสถิตย์ นายวิทวัส ภักดีสันติสกุล รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามสถานการณ์พายุปาบึก และประเมินสถานการณ์ผ่านระบบ Video Conference กับศูนย์ปฏิบัติการส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานระนอง ท่าอากาศยานชุมพร ท่าอากาศยานนราธิวาส ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานตรัง และท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน มอบหมายให้นายจรุณ มีสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ลงพื้นที่เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ณ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โดยได้สรุปสถานการณ์ล่าสุดได้ ดังนี้

1.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เปิดให้บริการได้ตามปกติ ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันนี้ จะมีเที่ยวบินขาเข้า จำนวน 5 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออก 5 เที่ยวบิน รวมเที่ยวบิน 10 เที่ยวบิน เที่ยวบินแรกของวันนี้ คือ สายการบินไทยแอร์เอเชีย FD 3184 เวลา 12.28 น. มีผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 98 คน เที่ยวบิน FD 3185 เวลา 13.11 น. มีผู้โดยสารขาออกจำนวน 157 คน สำหรับผู้โดยสารที่สำรองตั๋วไว้แล้ว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายการบินโดยตรง หรือท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช โทร. 075-450541-5

2.ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เปิดให้บริการได้ตามปกติ ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันนี้ จะมีเที่ยวบินขาเข้า จำนวน 14 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออก 13 เที่ยวบิน รวมเที่ยวบิน 27 เที่ยวบิน สายการบินเที่ยวแรกของวันนี้เป็นของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 3237 เวลา 12.30 น. 150 คน FD 3238 เวลา 13.10 น. 180 คน สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินขาเข้า SL 734 เวลา 12.30 น. 153 คน ขาออก SL735 เวลา 13.15 น. 194 คน สำหรับผู้โดยสารที่สำรองตั๋วไว้แล้ว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายการบินโดยตรง หรือท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โทร 077-44123

3.จากสถานการณ์พายุปาบึก ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าแรงสูงภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช และภายในท่าอากาศยานบางส่วนได้รับความเสียหาย จึงทำให้ระบบกระแสไฟฟ้าขัดข้อง เพื่อให้ระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชสามารถทำงานได้เต็มระบบในการอำนวยความปลอดภัยและความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง กรมท่าอากาศยานจึงได้จัดส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองเคลื่อนที่ (Mobile Generator) ขนาด 500 KVA จากท่าอากาศยานกระบี่ มาที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช โดยจะถึงประมาณช่วงเย็นของวันที่ 5 มกราคม 2562

ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานได้กำชับให้ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง รวมถึงท่าอากาศยานอื่นๆ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดผลกระทบตามมา เช่น ความคับคั่งของผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว และปัญหาอุทกภัยที่ตามมาจากการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ