นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า รมว.สาธารณสุข ได้มอบนโยบายให้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสถานบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) พื้นที่ห่างไกลแนวชายแดน ทุรกันดาร พื้นที่เกาะ พื้นที่สูง ให้มีระบบสาธารณูปโภคและการสื่อสาร ด้วยระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อเพิ่มคุณภาพ ความสะดวก ในการบริการประชาชน และช่วยลดโลกร้อน
โดยในปีงบประมาณ 2562 ได้เตรียมแผนขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จำนวน 1,800 ล้านบาท ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) เพิ่มในสถานบริการ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 หน่วยบริการปฐมภูมิรวม 882 แห่ง ได้แก่ รพ.สต./ สาธารณสุขชุมชน (สสช.)/ สุขศาลาที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ 114 แห่ง รพ.สต.ที่ไฟฟ้าไม่เสถียร 169 แห่ง รพ.สต.ในพื้นที่เขตชายแดน 472 แห่ง รพ.สต.ในพื้นที่เกาะ 48 แห่ง สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี 78 แห่ง และ รพ.สต.ทุ่งรักษ์ชัยพัฒน์ 1 แห่ง
กลุ่มที่ 2 โรงพยาบาลที่มีความพร้อมดำเนินการ 131 แห่ง และกลุ่มที่ 3 โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ 39 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 4 แห่ง และ รพ.พระราชทานนามชัยพัฒน์ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี 4 แห่ง คาดว่าจะเริ่มติดตั้งได้ในเดือนมีนาคม 2562
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2561 กระทรวงสาธารณสุข ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใน รพ.สต. ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้จำนวน 47 แห่ง และใน รพ.สต. ที่ระบบไฟฟ้าไม่เสถียร 227 แห่ง รวมทั้งสิ้นกว่า 885 ล้านบาท เพื่อให้มีไฟฟ้าที่มีความเสถียร ระบบความเย็นของตู้เย็นที่ใช้เก็บรักษาวัคซีน ยา มีอุณหภูมิคงที่ สามารถทำหัตถการฉุกเฉินในเวลากลางคืน รวมทั้งบุคลากรและผู้บริการมีความปลอดภัย