ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

ข่าวทั่วไป Tuesday January 29, 2019 15:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

โดยสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว มีดังนี้

1. ปรับปรุงบทนิยาม คำว่า "พยาน" หมายความว่า บุคคลซึ่งจะมาให้หรือได้ให้ข้อเท็จจริงต่อพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา พนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนคดีอาญา พนักงานผู้มีอำนาจฟ้องคดีอาญาหรือศาล ในการดำเนินคดีอาญารวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ แต่มิให้หมายความรวมถึงจำเลยที่อ้างตนเองเป็นพยาน และเพิ่มบทนิยาม คำว่า "พนักงานเจ้าหน้าที่" เพื่อให้เกิดความชัดเจนเหมาะสมยิ่งขึ้น

2. กำหนดให้คดีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นคดีมาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยาน

3. กำหนดให้ในกรณีที่พยานอาจไม่ได้รับความปลอดภัย อาจจัดให้พยานอยู่ในความคุ้มครองตามที่เห็นเป็นการสมควร หรือตามที่พยานหรือบุคคลใดซึ่งมีประโยชน์เกี่ยวข้อง ได้ร้องขอการคุ้มครองให้พยานได้รับความปลอดภัย ให้รวมถึงการจัดให้พยานอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย เว้นแต่พยานจะไม่ให้ความยินยอม และการปกปิดมิให้มีการเปิดเผยชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ ภาพหรือข้อมูลอย่างอื่นที่สามารถระบุตัวพยานได้

4. กำหนดให้ในระหว่างรอการพิจารณา ตามมาตรา 9 กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เพื่อป้องกันมิให้พยานได้รับอันตราย สำนักงานคุ้มครองพยานอาจใช้มาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยานไปพลางก่อน หรือประสานหน่วยงานอื่นที่มีภารกิจเกี่ยวข้องให้การคุ้มครองความปลอดภัยไปก่อนได้

5. การดำเนินการเพื่อคุ้มครองพยานตามมาตรการพิเศษ เช่น ย้ายที่อยู่หรือจัดหาที่พักอันเหมาะสม จ่ายค่าเลี้ยงชีพ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล หลักฐานทางทะเบียนที่สามารถระบุตัวพยาน และพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา การรักษาพยาบาล การจ่ายเงินดำรงชีพที่เหมาะสม ให้กับพยานและผู้ใกล้ชิดกับพยานที่ได้รับผลกระทบจากการมาเป็นพยานในคดีอาญา

6. ให้สำนักงานคุ้มครองพยาน ได้รับยกเว้นไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์ เช่นเดียวกับข้าราชการทหารและตำรวจตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ การมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง สิ่งเทียมอาวุธปืน และยุทธภัณฑ์ให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรมกำหนด

7. การปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเฉพาะเรื่องที่ได้รับมอบหมาย

8. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ จะต้องผ่านการอบรมตามที่กำหนดและมีอำนาจ ได้แก่ (1) สอบปากคำผู้ยื่นคำร้องเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่าง ๆ (2) มีหนังสือเรียกบุคคลใด ๆ มาเพื่อให้ถ้อยคำเพื่อประกอบการพิจารณา (3) ประสานกับพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล เพื่อให้มีการปกปิดชื่อของพยาน (4) การตรวจค้นควบคุมตัวบุคคลหรือยานพาหนะที่มีเหตุเชื่อว่าจะก่อภยันตรายหรือคุมคามพยาน เป็นต้น

9. กำหนดโทษสำหรับผู้ที่เปิดเผยความลับเกี่ยวกับสถานที่อยู่ ชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ ภาพหรือข้อมูลอย่างอื่นที่สามารถระบุตัวพยาน สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือบุคคลอื่น ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษเป็น 2 เท่าของโทษที่กำหนด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ