นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่สถานการณ์ปัจจุบันได้มีฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ปกคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้คุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับ "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ" (สีส้ม) และ "มีผลกระทบต่อสุขภาพ" (สีแดง) ในบางพื้นที่มีปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานนั้น ส.อ.ท.ได้ ตระหนักถึงการป้องกันและการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาด PM 2.5 จากภาคอุตสาหกรรม จึงได้มีการเฝ้าตรวจวัดมลพิษทางอากาศที่ปล่อยออกจากปล่องกระบวนการผลิต เครื่องจักรต่าง ๆ เช่น หม้อไอน้ำ เตาเผา เป็นต้น
นอกจากนี้ ส.อ.ท. ได้มีมาตรการดำเนินการในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาวิกฤติฝุ่น PM 2.5 จากโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงงานอุตสาหกรรมทั้งในส่วนกระบวนการผลิต และกิจกรรมสนับสนุนต่าง ๆ โดยแบ่งมาตรการออกเป็นระยะเร่งด่วนและระยะยาว ดังนี้
สำหรับมาตรการระยะเร่งด่วน ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาชิกในการดูแลความสะอาดและควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงงานที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น การกองเก็บวัตถุดิบที่จะฟุ้งกระจายได้ การขนส่งวัตถุดิบและสินค้า กิจกรรมการก่อสร้างต่าง ๆ และบริเวณถนนรอบโรงงาน ซึ่งโรงงานส่วนใหญ่จะมีมาตรการกองเก็บวัตถุดิบภายในอาคาร การพรมน้ำเพื่อป้องกันวัตถุดิบฟุ้งกระจาย การใช้รถดูดฝุ่น และการใช้มาตรการล้างล้อ และทำความสะอาดภายในท่อไอเสียของรถบรรทุกขนส่ง ทั้งขาเข้า-ออกนอกโรงงาน
การดูแลตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ อาทิ เตาเผา boiler เครื่องบำบัดฝุ่น ให้มีประสิทธิภาพ และเลือกใช้เชื้อเพลิงสะอาด เช่น ก๊าซธรรรมชาติ รวมทั้งมีการตรวจสอบและซ่อมบำรุงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสอบวิเคราะห์ hotspot ที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น เพื่อเพิ่มมาตรการในการตรวจติดตามและป้องกันอย่างใกล้ชิด
อีกทั้งให้นโยบายการทำงาน work at home รวมทั้งใช้ระบบสื่อสาร online และ E-office เป็นแนวทางการดำเนินงาน เพื่อลดผลกระทบฝุ่นจากการเดินทางและดูแลสุขภาพพนักงาน
ส่วนมาตรการระยะยาว ประกอบด้วย 1. ออกมาตรการดูแลส่งเสริมคู่ธุรกิจ (Supply Chain) ให้มีการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Process) และได้รับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory)
2. เน้นการส่งเสริมและให้ความรู้กับคู่ธุรกิจ (Supply Chain) โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรต่าง ๆ ให้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ชาวไร่อ้อย ข้าว เป็นต้น
3. ผลักดันให้ภาครัฐมีนโยบายให้ใช้รถไฟฟ้า โดยกำหนดให้รถสาธารณะ เช่น รถเมล์ แท็กซี่ สามล้อ รถตู้โดยสาร รถสองแถวต้องเป็น EV โดยรัฐบาลลดภาษีนำเข้าและสรรพาสามิตจูงใจ
4. ให้ติดตั้งเครื่องมือวัดค่าฝุ่นขนาดเล็กกับทุกกิจการที่มีอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้มีการผลักดันและส่งเสริมให้สมาชิกโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินงานตามแนวทางโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ซึ่งเป็นมาตรการที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการผลิตเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นกลไกลสำคัญในการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษของทางภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน